สาว ๆ ที่รักจ๋า เคยสำรวจตัวเองกันบ้างไหมว่าร่างกายของเรามีความเสื่อมสลายไปมากแค่ไหนแล้ว ลองสังเกตตัวเองอย่างง่าย ๆ ดูสิว่าเรารู้สึกเพลียหรือป่วยบ่อยไปหรือเปล่า หากสิ่งเหล่านี้เริ่มมาให้เห็นบ่อยขึ้นให้รู้ไว้เลยว่าตอนนี้ร่างการของเราต้องการดูแลที่มากขึ้น
ต่อให้เราพยายามพัฒนาตัวเองในด้านต่าง ๆ เพื่อให้มีชีวิตที่ดี แต่หากร่างกายของเราไม่พร้อมที่จะไปพร้อมกันมันก็แย่นะคะ และเมื่อไหร่ที่ความต้องการพัฒนาตัวเองจะเป็นสิ่งที่เราต้องการเป็นอันดับหนึ่งของการใช้ชีวิต แต่ร่างกายของเราเริ่มมีความเสื่อมถอยลง ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันไม่ใช่การสร้างเป้าหมายชีวิต แต่เป็นการต่อสู้กับโรคที่เข้ามาแวะเวียนสร้างความรำคาญใจในทุก ๆ วันต่างหาก
เพื่อเริ่มต้นชีวิตที่มีสุขภาพดี เราต้องเริ่มพิจารณาตัวเองในกิจวัตรต่าง ๆ เช่น มีการนอนหลับที่เพียงพอทุกวันหรือไม่หรือมีการรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์แค่ไหน และเรื่องที่สำคัญที่สุดคือการให้เวลาสำหรับการออกกำลังกาย สิ่งเหล่านี้สำคัญและเป็นสิ่งที่ต้องใส่ใจเป็นอันดับแรก แต่ในบางครั้งมันก็ดูยากสำหรับสาว ๆ บางคนในชีวิตจริง เพราะยังมีคนที่มีกิจวัตที่ยุ่งเหยิงเกินกว่าจะทำสิ่งเหล่านี้สำเร็จ
ลดความกังวลใจกับคำว่ายังทำมันไม่ได้ด้วยวิธีการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพที่ดีในบทความนี้กัน
1. เปลี่ยนนิสัยการกิน
สิ่งแรกที่ต้องจำให้แม่น เพราะการกินมีทั้งให้ประโยชน์และทำลายได้ในเวลาเดียวกันหากเรากินไม่ถูกวิธี เคยได้ยินไหมว่า “เมื่ออาหารผิด ยาก็ไม่มีประโยชน์ เมื่ออาหารถูกต้อง ยาก็ไม่จำเป็น” นั่นหมายความว่าเราต้องเริ่มใส่ใจกับอาหารที่เราต้องกินทุกวัน
แน่นอนว่าชีส หรือช็อคโกแล็ต เรารับประทานมันได้แต่เราต้องรับประทานให้เป็นช่วงเวลาเพื่อให้มันถูกนำพลังงานจากน้ำตาลไปใช้ให้เป็นประโยชน์
หากมีคำถามว่า “กินเพื่อสุขภาพคืออะไร” ง่าย ๆ ก็คือการกินอย่างมีสติ ลดความอยากที่จะนำน้ำตาลและอาหารแปรรูปเข้าสู่ร่างกาย และหยุดการทรมานร่างกายและระบบเผาพลาญด้วยการกินอาหารขยะ
แนะนำอาหารที่ควรหลีกเลี่ยง อย่าให้เข้าไปในร่างกายของเรา เพราะมันคืออาหารขยะแบบที่กล่าวมา
– อาหารแปรรูป
– เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล
– อาหารที่มีไขมันทรานส์ (โดนัท เค้ก ของทอดรสเค็ม ฯลฯ)
– อาหารจานด่วน
– โซดาและเครื่องดื่มอัดลม
– อาหารพร้อมรับประทานแบบแพ็คกล่อง
เมื่อเราโยนอาหาเหล่านี้ทิ้ง ก็แนะนำอาหารที่นำมาทดแทนและมีคุณค่าทางอาหารสูง
– อาหารที่ไม่ผ่านการขัดสี (อาหารที่ไม่ผ่านการแปรรูป ไม่ผ่านการขัดสี และปราศจากสารปรุงแต่ง)
– ผักและผลไม้มากมาย
– ไขมันที่ดีต่อสุขภาพ (อะโวคาโด ถั่ว ปลาที่มีไขมัน เป็นต้น)
– โปรตีนลีน (อาหารที่มีโปรตีนล้วน เช่น อกไก่)
ฝึกการสลับการกิน
โดยปรกติเวลาที่เรารู้สึกเพลียร่างกายหรือรู้สึกเหนื่อย ร้อน แน่นอนว่าร่างการจะกระตุ้นให้เรารู้สึกต้องการความสดชื่นด้วยเครื่องดื่มที่มีรสหวาน และมีบางเวลาที่เราหิวอาหารที่รวดเร็วในเวลานั้นก็หนีไม่พ้นอาหารขยะ
ลองบังคับเพื่อฝึกฝนตัวเองกับความรู้สึกนั้น เมื่อไหร่ที่เรารู้สึกกระหายลองหยิบน้ำดื่มบริสุทธิ์แทนการสั่งออเดอร์เครื่องดื่มที่มีรสหวาน หรือเมื่อที่เราต้องรับประทานอาหารในทันทีเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เวลาถูกบีบ ลองหันไปหาผลไม้แทนอาหารขยะหรืออาหารแปรรูป วิธีการเปลี่ยนตัวเองด้วยการบังคับตัวเองอย่างง่าย ๆ ที่ไม่ต้องตึงเครียดมากนัก
เลือกของทานเล่นเพื่อสุขภาพ
ด้วยในตอนนี้ ความสะดวกสบายในเรื่องของการจับจ่ายมีมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน ร้านสะดวกซื้อต่าง ๆ เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น ทำให้อาหารต่าง ๆ ถูกส่งถึงเราได้อย่างง่าย ๆ เมื่อไหร่ที่เราไม่บังคับตัวเองเมื่อนั้นการสั่งอาหารที่ไร้ประโยชน์ก็เข้าหาเราได้อย่างง่ายดายเช่นกัน
ดังนั้นเมื่อไม่มีทางเลือก เราก็ควรเป็นผู้เลือกของทานเล่นของเราให้เป็นอาหารประเภท ถั่ว อัลมอนต์อบ เม็ดมะม่วงหิมพานต์ และบรรจุมันไว้ในกระปุกน่ารัก ๆ และหยิบง่าย เพื่อที่ว่าเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกหิวระหว่างมื้ออาหาร สิ่งเหล่านี้จะช่วยลดความอยากและเพิ่มพลังงานความมีประโยชน์เข้าร่างกายเรา
2. ทำตัวเองให้กระฉับกระเฉง
คำว่ากระฉับกระเฉงในที่นี้ก็หมายถึงการมีร่างการที่ฟิตแอนด์เฟิร์มนั่นแหละ ร่างกายมนุษย์ถูกออกแบบมาให้มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ลองหันมาใช้วิธีการออกกำลังการขยับร่างกายกัน เริ่มจากง่าย ๆ เช่นการเต้น หรือการเล่นโยคะ
เคล็ดลับบางประการเพื่อคงความกระฉับกระเฉง
– เดินระยะทางสั้นๆ แทนการใช้ยานพาหนะ
– ใช้บันไดแทนลิฟต์
– จอดรถห่างจากสำนักงานแล้วเดิน
– ทุก ๆ ชั่วโมงของการนั่ง ให้ยืนขึ้นและออกกำลังกายยืดเหยียดเป็นเวลา 10 นาที
– ทำงานบ้าน เช่น ทำความสะอาด ซักผ้า ตัดหญ้า จะช่วยให้คุณเผาผลาญแคลอรีและควบคุมน้ำหนักได้
การออกกำลังกายช่วยให้คุณได้รับประโยชน์ทันที เช่น พลังงานและอารมณ์ที่เพิ่มขึ้น และความรู้สึกเป็นอยู่ที่ดี การออกกำลังกายทำให้สมองหลั่งสารเคมีที่เรียกว่าโดปามีน อะดรีนาลีน เอ็นโดรฟิน สิ่งเหล่านี้เป็นสารสำคัญจากภายในที่ให้ความรู้สึกสดชื่น ปลอดโปร่ง หลังออกกำลังกาย
3. รักษาสุขภาพจิต
ต่อให้เรามีร่างกายที่แข็งแรงขนาดไหน แต่ภายจิตใจของเรายังคงต้องมีความวิตกกังวลกับปัญหารอบด้าน และยังสร้างอารมณ์ที่แปรปรวน จนทำให้เกิดอาการซึมเศร้า และมีผลกระทบต่อการกิน เมื่อไหร่ที่อาการเหล่านี้เกิดขึ้นเราต้องรีบกำจัดหรือรักษามัน
ไม่มีใครอยากใช้เวลาที่เหลือของเราสำหรับแพทย์ แต่หากร่างกายของเราป่วย ปัญหาสุขภาพจิตก็จะตามมา มีหลายคนต้องทนทุกข์กับสิ่งเหล่านี้อยู่เงียบ ๆ แต่เมื่อไหร่ที่เราเริ่มตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้ได้ ก็เท่ากับว่าเราได้เริ่มที่จะรักษามัน และจิตใจของเราก็จะดีขึ้นหากเราจัดการกับสิ่งแย่ ๆ ที่ทำลายสุขภาพของเราได้เร็ว
ลองใช้เวลากับธรรมชาติ ในการเพิ่มความสุข ลดความวิตกกังวล ออกไปอาบแดด และปลุกความคิดตัวเองในการสร้างสรรค์การทำอะไรสักอย่าง ลองเดินเล่นในป่ายามเย็นหรือใช้เวลาในสวนทุกวันเพื่อฟื้นฟูจิตใจ เขียนบันทึกเพื่อช่วยให้คุณผ่อนคลายจากความคิดตึง ๆ ในหัว จะช่วยให้จิตใจปลอดโปร่ง โล่งสบายขึ้น
4. ให้การนอนหลับที่เพียงพอ
การนอนหลับอย่างเพียงพอเป็นสิ่งที่สำคัญในการสร้างวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี แต่ก็เป็นสิ่งที่เราละเลยมากที่สุดเพราะชีวิตที่ดูวุ่นวายของเรา
แต่ทว่าการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง เมื่อไหร่ที่เราต้องการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ต้องพักผ่อนให้เพียงพอเพราะการอดนอนจะมีผลต่อความสามารถของสมองในการสร้างสมาธิและทำงานได้อย่างดีที่สุด และการนอนหลับที่ไม่ดียังทำลายสุขภาพที่ดีโดยภูมิคุ้มกันในร่างกายจะลดลงและโรคต่าง ๆ จะเข้าหาเราได้ง่ายขึ้น ดังนั้นไม่ว่าคุณจะยุ่งแค่ไหน พยายามนอนหลับให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
การเริ่มต้นนิสัยที่ดีต่อสุขภาพเพื่อสร้างวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีนั้น มันส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นในแต่ละด้านของชีวิตเรา จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ด้วยการสร้างการเปลี่ยนแปลงในเรื่องที่คุณต้องการให้เกิดขึ้นในชีวิต ปล่อยให้ความรู้สึกเป็นอิสระที่จะตัดนิสัยด้านไม่ดีที่จะทำลายชีวิตเราออกไป หรือแม้กระทั่งสิ่งที่ทำแล้วไม่ได้ผลสำหรับตัวเรา จำไว้ว่าทุกสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจาการเปลี่ยนแปลงมันคือการเดินทาง แต่ก็ยังคงไม่ใช่จุดหมายปลายทางหากมันยังไม่สำเร็จ
Credit ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ