สาวๆต้องห้ามพลาด กลูตาไธโอน ตัวช่วยผิวขาวแถมกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย

กลูตาไธโอน ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับสาวๆที่อยากมีผิวพรรณเปล่งปลั่ง กระจ่างใส ด้วยสภาวะที่อากาศมีมลพิษสูง อีกทั้งยังมีปัจจัยอื่นๆที่ส่งผลให้ร่างกายของเราเสื่อมโทรมไวกว่าปกติ นอกจากการทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ รวมไปถึงออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแล้ว การทานอาหารเสริม อย่าง กลูตาไธโอน ก็ถือว่ามีความสำคัญไม่น้อยเลยทีเดียว ถ้าหากทานอย่างถูกต้องในปริมาณที่เหมาะสม นอกจากจะช่วยให้ผิวขาวแล้วยังมีส่วนช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยขับสารพิษในตับได้อีกด้วย สำหรับใครที่สนใจ เรามาทำความรู้จักกับกลูต้าไธโอนไปพร้อมๆกันเลย

1. กลูต้าไธโอนคืออะไร

1. กลูต้าไธโอนคืออะไร

เป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโน 3 ชนิด ได้แก่ ซิสเตอีน  ไกลซีน และกลูต้ามิก ซึ่งกรดอะมิโนเหล่านี้ร่างกายสามารถสังเคราะห์ออกมาเองได้แต่เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นอาจจะมีการสังเคราะห์ออกมาได้น้อยลง โดยกลูต้านั้นมีหน้าที่ป้องกันไม่ให้เนื้อเยื่อถูกทำลายจากอนุมูลอิสระต่างๆแถมยังช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและช่วยตับขับสารพิษออกจากร่างกายได้อีกด้วย ทั้งนี้ปริมาณกลูต้าผลิตลดลงตามอายุที่เพิ่มขึ้น รวมถึงปัจจัยต่างๆ เช่น ความเครียดรวม และสภาพแวดล้อมในการใช้ชีวิตเป็นต้น

2. หลักการทำงานของกลูต้าไธโอน

2. หลักการทำงานของกลูต้าไธโอน

เนื่องจากกลูต้าเป็นสารประเภทใดเปปไทด์ที่ประกอบไปด้วยกรดอะมิโน 3 โมเลกุลต่อกันด้วยพันธะเปปไทด์ อันได้แก่ ซิสเตอีน เป็นกรดอะมิโนที่สำคัญในเด็กและผู้สูงอายุ ช่วยดูแลปัญหาด้าน metabolism และการดูดซึมของสารอาหารที่มีความผิดปกติ ไกลซีนเป็นกรดอะมิโนที่มีขนาดเล็กที่สุด มีส่วนช่วยดูดซึมแคลเซียมของร่างกาย และช่วยให้เซลล์ต่างๆนั้นอุ้มน้ำ จึงมีส่วนช่วยให้ผิวหนังเรามีความยืดหยุ่นเปล่งปลั่งมากขึ้นนั่นเอง และกลูต้ามิก เป็นโปรตีนที่พบตามธรรมชาติส่วนใหญ่จะทำงานเกี่ยวข้องกับสมอง 

3. ประโยชน์และความสำคัญของกลูต้าไธโอน

3. ประโยชน์และความสำคัญของกลูต้าไธโอน

คุณสมบัติหลัก คือ ช่วยบำรุงผิวพรรณให้แลดูกระจ่างใส เนื่องจากกลูต้า มีหน้าที่เข้าไปยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase) ที่ทำให้การสร้างเมลานินในชั้นผิวนั้นลดลง ช่วยกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้กลูต้าไธโอนยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ในร่างกาย ซ่อมแซม DNA ที่สึกหรอ ต้านการอักเสบได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยจับสารพิษที่ไม่ละลายน้ำ และกำจัดออกทางไตหรือทางลำไส้ รวมทั้งช่วยกำจัดฝุ่นละออง และควันพิษที่ปอดได้อีกด้วย 

4. กลูต้าไธโอนจากแหล่งธรรมชาติ

4. กลูต้าไธโอนจากแหล่งธรรมชาติ

สามารถพบได้ในผัก เช่น มะเขือเทศ อะโวคาโด แตงกวา ผักโขมและพบมากที่สุดในหน่อไม้ฝรั่ง ในส่วนของผลไม้ที่อุดมไปด้วยกลูต้าไธโอน เช่น แอปเปิ้ล ส้ม สตอเบอรี่ องุ่นแตงโม รวมไปถึงในเนื้อสัตว์ต่างๆ เช่น เนื้อหมู เนื้อวัว ปลาแซลมอน แต่จากแหล่งธรรมชาติอาจจะไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย สาวๆอาจจะต้องทานกลูต้าไธโอนจากอาหารเสริมเพิ่มด้วย ซึ่งก็จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและให้คุณได้รับเพียงพอในแต่ละวันอีกด้วย

5. วิธีรับประทานกลูต้าไธโอนที่ถูกต้อง

5. วิธีรับประทานกลูต้าไธโอนที่ถูกต้อง

จะต้องมีปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป โดยปริมาณที่ร่างกายต้องการนั้นไม่ควรเกิน 1,000 มก ต่อวัน ดังนั้น สำหรับสาวๆคนไหนที่หาวิตามิน หรืออาหารเสริมกลูต้าไธโอนมาทาน แนะนำให้ทานในช่วงท้องว่าง จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมและนำไปใช้ได้ดีมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญจะต้องดื่มน้ำตามมากๆ ในส่วนของผลข้างเคียงถ้าหากรับประทานอาหารไม่เหมาะสม อาจจะทำให้เกิดสารเคมีตกค้างและเป็นผลเสียต่อไตที่จะต้องกำจัดออก จนอาจทำให้เกิดนิ่วที่ไต หรือในกระเพาะปัสสาวะได้ ดังนั้นแนะนำให้ปรึกษาเภสัชก่อนทานเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงและให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อร่างกายนั่นเอง 

จะเห็นได้ว่า  กลูตาไธโอน นอกจากจะช่วยให้เราดูผิวพรรณสุขภาพดีมากขึ้นแล้ว ยังมีประโยชน์ในเรื่องของการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกายได้อีกด้วย หากทานในปริมาณที่เพียงพอ และเหมาะสม ก็จะมีประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย ซึ่งในปัจจุบันก็มีอาหารเสริมกลูต้าไธโอนออกมาหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเม็ดอัดแข็ง แบบแคปซูล แบบผงชงดื่ม ก็สามารถเลือกได้ตามความชื่นชอบของแต่ละบุคคลเลย โดยแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีใบรับรองอย่างถูกต้องและปลอดภัย เพื่อให้เกิดผลข้างเคียงของร่างกายน้อยที่สุดนั่นเอง