ภายใต้ความรู้สึกการผ่านเรื่องเลวร้ายในชีวิตผู้หญิงเรื่องการหย่าร้างจัดได้ว่าเป็นความเจ็บปวดเบอร์หนึ่งที่แสนทรมาน จะด้วยความเต็มใจหรือต้องทำก็ตาม เมื่อความผิดหวังที่ถาโถม จินตนาการกับเรื่องเจ็บปวดซ้ำ ๆ จะเริ่มวนเวียนคิดถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และ reaction แย่ ๆ ก็เริ่มขึ้น
ผู้หญิงหลายคนสูญเสียการควบคุมตัวเองไปชั่วขณะหลังหย่า แต่ก็ยังมีผู้หญิงบางคนกำลังเริ่มเฉลิมฉลองให้กับอิสระภาพที่รอคอยมาแสนนาน แต่ทั้งสองอารมณ์ก็จำเป็นที่ต้องวิธีการลับมือแบบมืออาชีพ เพื่อควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้สามารถเดินต่อไปข้างหน้าได้อย่างมีสติ
มาดูกันว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังการหย่าร้างที่จะสร้างความเจ็บปวดมีวิธีหยุดมันและปรับความคิด ปรับความรู้สึกเพื่อให้ความเข้มแข็งเข้ามาแทนที่อย่างเร็วที่สุด มีอะไรบ้าง
ข้อผิดพลาด 10 อันดับแรกที่ผู้หญิงมักทำหลังจากการหย่าร้าง พร้อมวิธีปรับตัวเองใหม่
1. ตอกย้ำความล้มเหลว
“ฉันล้มเหลว” คำนี้ที่มักเกิดขึ้นหลังการเซ็นต์ใบหย่าเสร็จสิ้น มันดูเหมือนเป็นรอยสักและคุณได้สักมันไว้ที่หน้าผาก เพราะมันแทบจะไม่หลุดออกไปจากต่อมความคิดของคุณเลย คุณทำราวกับว่าชีวิตผู้หญิงคนหนึ่งต้องล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงกับชีวิตครอบครัว ช่างดูน่าสมเพช
แต่ความรู้สึกนี้จริง ๆ แล้วมันเป็นเพียงความเชื่อว่าคุณเป็น และตอกย้ำความเชื่อด้วยการบอกับตัวเองตลอดเวลาทั้งก่อนนอนและตื่นนอนว่า “ฉันล้มเหลว ฉันล้มเหลว” คุณรู้ไว้เลยว่าเราบอกตัวเองว่าเราเป็นแบบไหนซ้ำ ๆ สมองจะสั่งให้เราทำตัวเป็นคนแบบนั้น
วิธีแก้ไข :
เปลี่่ยนใหม่ ให้มองเหตุการณ์ในปัจจุบันในขณะที่คุณหายใจอยู่เปลี่ยนจากคำว่า “ฉันล้มเหลว” เป็นคำว่า “ฉันไม่ใช่คนล้มเหลว” และให้คุณรู้สึกตื่นเต้นคิดไปข้างหน้าว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ ๆ บ้างในชีวิต เช่น อิสระภาพกับการใช้ชีวิตคนเดียวที่ไม่ต้องมีใครทำให้เราต้องกังวลใจ ได้ใช้เวลากับแก็งค์เพื่อนสาว แฮงค์เอาท์ แบบที่คุณไม่ได้ทำมันมาก่อนในขณะที่ยังมีเขาคนนั้นในชีวิต
2. เลี่ยงการนึกถึงความรู้สึกแย่ ๆ
ความรู้สึกหลังหย่ามันคล้าย ๆ กับคุณขึ้นนั่งรถไฟเหาะที่มันทำให้คุณหวาดกลัวมากที่สุด แต่สุดท้ายความน่ากลัวและตื่นเต้นก็หยุดลง และความรู้สึกตรงนั้นมันก็กลายเป็นความทรงจำที่น่ากลัว
ผู้หญิงหลายคนเริ่มนอนไม่หลับคิดหลายตลบถึงสิ่งนั้น ช่วงเวลาของการจรดปากกาลงไปบนกระดาษมันกรีดใจ และสุดท้ายต้องหันพึ่งตัวช่วย ยาวิเศษที่ทำให้คุณหลับสนิทโดยไม่มีฝันร้าย แล้วยังไงต่อ? เมื่อไหร่ที่คุณลืมตาตื่นนอนคุณยังคงอยู่กับความจริงอยู่ดี
วิธีแก้ไข :
ความเศร้าอย่าให้มันอยู่กับเรานาน ลองจิบไวน์เบา ๆ สัก 2-3 แก้วดูสิช่วยได้ ความรู้สึกอินในรสชาติไวน์ที่หอมยั่วยวน กลิ่นของไวน์สามารถช่วยบำบัดความรู้สึกเศร้า ๆ ได้ผลดี แต่ถ้าพูดถึงมันดิ่งและแย่ที่สุด ก็แนะนำให้ลองใช้ยาวิเศษช่วยบ้างบางเวลา เพื่อประคองให้คุณผ่านไปได้ในทุก ๆ วัน
หลังจากที่คุณยังได้ตื่นนอนมาในตอนเช้าได้หลายวันหลังจากเหตุการณ์เลวร้ายผ่านไปได้ นั่นแสดงว่ามันก็ไม่ได้เลวร้ายมากเท่าไหร่นัก เพราะคุณก็ผ่านมันมาและตื่นนอนได้ทุกวันจริงไหม? ลองคิดดูว่าเมื่อเราไม่ตายจากการแยกทาง แล้วทำไมเราจะเดินต่อไปไม่ได้หล่ะ ไวน์ 10 ขวด ยา 10 เม็ด สรรพคุณยังดีไม่เท่าการทำใจให้รับได้หรอกนะ
3. ก้าวข้ามความมึนงง
ช็อค! เจ็บปวด! ว่างเปล่าเพราะไม่รู้จะทำอะไรต่อไป มึน งง ไปหมด ทุ่มความรู้สึกทั้งหมดเอาไปรวมกองไว้เหมือนสุมไฟให้ตัวเองเจ็บปวดทรมาน ซึ่งก่อนหน้านี้คุณเคยเป็นผู้หญิงร่าเริง หัวเราะเก่ง ช่างตื่นเต้น แต่นิสัยเหล่านี้ถูกกดเอาไว้ด้วยคำว่า “หย่า” คำเดียว ไม่เป็นแล้วคนเก่า เป็นไม่ได้เพราะไม่มีเขาอีกต่อไป
เมื่อไหร่ที่คุณปล่อยให้ความรู้สึกเหล่านี้กดสิ่งดี ๆ ไว้ข้างในส่วนลึกในใจ คุณจะไม่มีวันกลับมาเป็นคนปรกติได้เลย สติ จิตใจของคุณอาจจะล่องลอยไปในอากาศหรือที่เรียกว่า “เปลือยเปล่า” เมื่อไหร่ที่คุณปล่อยอารมณ์ให้เป็นแบบนี้เป็นเวลานานเกินไป บอกเลยว่าจิตหลุด และเมื่อไหร่ที่จิตหลุดนั่นหมายความว่าคุณจะไม่รับรู้อะไรอีกรวมไม่ถึงชื่อตัวเอง น่ากลัวมาก
วิธีแก้ไข :
ลองไปยืนที่หน้ากระจกตามลำพัง ใช้สติจดจ่ออยู่ตรงนั้นเล่าทุกสิ่งออกมาให้หมด (วิธีน้ำสำหรับคนที่ไม่ต้องการที่จะเจอใคร) เมื่อคุณเต็มใจที่จะให้จิตใจของคุณเศร้าหมอง คุณต้องมีการกำหนดการหยุดอาการแบบนี้ให้ได้ เพราะตัวคุณเองเท่านั้นที่จะกำหนดความรู้สึกตัวเองทุกอย่าง เมื่อรู้สึกสบายใจและโล่งใจไดในระดับหนึ่ง ให้คิดถึงเรื่องแย่ ๆ นั้นแล้วให้มาเป็นบทเรียน สอนคุณในเรื่องของการรักตัวเองให้มากกว่าการรักคนอื่น มันได้ผลถ้าคุณมีสติมากเพียงพอ สติสำคัญ
4. แสวงหาการแก้แค้น
ไม่โกรธ แต่จำได้หมดทุกเรื่องราว ไม่พูดอะไร แต่รอวันเอาคืน รอคอยที่จะเห็นเขาคนนั้นเจอกับเรื่องล้มเหลวแล้วคุณจะหัวเราะไปกับมัน ความเจ็บปวดของเขาจะเป็นความสุขของคุณ มันไม่ใช่ เพราะสิ่งนี้เรียกว่า “การแก้แค้นทางอารมณ์”
วิธีแก้ไข :
มีทางเดียวเท่านั้นที่จะหลุดพ้นจากความโกรธที่ไร้สตินี้ นั่นคือการปล่อยวางให้ได้ ให้จำไว้ว่าการแก้แค้นที่หอมหวานที่สุดที่คุณเคยมี คือการผ่านช่วงอารมณ์ดิ่งหลังการหย่าร้างได้อย่างรวดเร็วที่สุดและก้าวไปสู่ชีวิตที่มีความสุข เพราะให้รู้ไว้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะก้าวต่อไปได้ หากคุณยังติดคิดวนเวียนอยู่กับความผิดและความโกรธที่บ้าคลั่ง อย่าเอาความสุขของเขามาทำลายความสุขของคุณ แนะนำว่าใครมีความสุขได้เร็วกว่าคนนั้นจะเป็นคนที่มีอนาคตข้างหน้าที่ดีสุดบอกเลย
5. อยู่คนเดียวไม่ได้
ผู้หญิงหลังหย่าหลายร้อยคนพูดเหมือนกันว่าชิวิตหลังการหย่ามันอยู่ค่อนข้างยาก เพราะหลายคนต้องถูกอยู่คนเดียวหรือต้องดูแลลูกลำพัง ความเสียใจที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขาคือความรู้สึกว่างเปล่า หันไปไม่มีใครอยู่ที่ตรงนี้อีกต่อไป ความรู้สึกสับสนและการเป็นโสดในเวลาข้ามคืนแบบไม่มีคู่ครองอีกแล้วหลังจากแต่งงานมาหลายปี
วิธีแก้ไข :
ให้ลองคิดแบบนี้ คุณยังอยู่กับตัวเอง และคุณก็เป็นคนเดียวที่จะอยู่ทุกที่เพื่อตัวคุณเองไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ก่อนแต่งงาน ระหว่างการแต่งงาน และหลังการหย่าร้าง การสร้างคุณภาพชีวิตของคุณทั้งหมดขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ของคุณกับคุณตัวเองโดยสิ้นเชิง ให้เริ่มฝึกหาเวลาอยู่กับตัวเองเพราะมันจะเป็นการปลุกจิตวิญญาณที่เข้มแข็งของคุณออกมา นี่เป็นโอกาสที่ดีในการค้นพบว่าคุณเป็นใครและได้ทำอะไรหลาย ๆ อย่างในชีวิตที่คุณต้องการทำมันที่ก่อนหน้านี้ไม่มีโอกาสได้ทำ
6. การตัดสินใจเพื่อลูก
แน่นอนว่าเด็ก ๆ จะรับกันไม่ได้ในช่วงแรกกับการที่พวกเขาจะต้องมีแค่พ่อหรือแม่แค่คนเดียวที่จะอยู่กับพวกเขาต่อ อาการต่อต้านจะทำให้คุณรู้สึกหนักใจ พลังความเครียดที่ต้องเตรียมคำตอบแทบทุกวันแรก ๆ กับคำว่า “เลิกกันทำไม ไม่รักพวกเขาเหรอ” กรีดใจมากโดยเฉพาะคนเป็นแม่ การโทษตัวเองจะมาทันทีหลังจากคำถามนี้
วิธีการแก้ไข :
ตั้งสติให้นิ่งและรับมือกับมันด้วยใจที่เข้มแข็ง เมื่อลูกๆ ของคุณโตขึ้นก็จะสามารถอยู่และเติบโตในครอบครัวที่แข็งแรงได้โดยมีพ่อแม่คนเดียวที่ให้เกียรติและเคารพตัวเองจากการดูแลที่ดีจากคุณ เมื่อไหร่ที่คุณสามารถดำเนินชีวิตตามความจริงของคุณ และเมื่อคุณพูดความจริงของคุณอย่างเปิดเผย นั่นคือสิ่งที่ลูกของคุณจะเริ่มเรียนรู้ และเมื่อพวกเขาเรียนรู้คุณค่าของความซื่อสัตย์สุจริตและการยอมรับจากคุณ พวกเขาจะไม่อยู่บนความทุกข์ขจากความกลัวอีกต่อไป
เมื่อคุณได้ลองอ่านมันมาตั้งแต่ต้นจนถึงข้อความสุดท้าย เชื่อแน่ว่าคุณจะรู้สึกได้ปลดปล่อยความรู้สึกผิดออกไปจากใจได้ไม่น้อย เข้าใจได้ว่ามันยาก แต่สำหรับผู้หญิงที่มีของขวัญที่วิเศษในตัวเอง คุณจะสามารถเอาชนะความรู้สึกเลวร้ายเหล่านี้ไปได้ไม่ยากหากคุณรักตัวเองมากพอ อย่าให้คำว่าล้มเหลวเข้ามาทำให้คุณไม่สามารถเดินต่อไปได้ ให้เอาความล้มเหลวเหล่านั้นมาเยียวยาตัวเอง สร้างความแข็งแกร่งด้วยบทเรียนจากความล้มเหลวที่ผ่านมาจะดีกว่านะ