ทำอย่างไรให้ดูอ่อนวัยแบบธรรมชาติสำหรับ Mature Woman
Mature Woman เป็นผู้หญิงที่มีช่วงอายุ 40 ปีขึ้นไป อัพที่อยากลดอายุลงไปสัก 10 ปี แต่หาร้อยแปดวิธีเตรียมพร้อมสำหรับเข้าสู่ความเป็น Mature ที่ยังดูอ่อนเยาว์ยังไงก็ยังงงวนเวียนในสารเคมี ลองมาดูวิธีการจัดการให้ตัวเราดูอ่อนเยาว์แบบธรรมชาติที่ไม่ต้องค้นหากันให้เหนื่อยใจอีกต่อไป ในการแบ่งปันนี้คุณจะพบวิธีการจัดการปัญหาหนักใจเหล่านี้ได้อย่างอยู่หมัด 10 วิธีในการดูอ่อนกว่าวัยอย่างเป็นธรรมชาติ 1. การนอนหลับ การนอนหลับของผู้หญิงเมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่การนอนหลับมันดูเหมือนเป็นเพียงการนอนหลับตาเท่านั้น แต่หากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะดูอ่อนกว่าวัยอย่างเป็นธรรมชาติ เคล็ดลับแรกคือต้องหลับตาและปิดการทำงานของสมองและนอนให้เพียงพอในแต่ละคืน คุณอาจจะมีวิธีการจัดการกับสมองของคุณอย่างง่าย ๆ เช่น การทำสมาธิ เป็นต้น และการนอนหลับให้ได้คุณภาพ ต้องได้นานถึง 7-9 ชั่วโมงเป็นประจำทุกวัน เพราะการนอนหลับจะทำให้ให้ร่างกายของคุณผลิตคอลลาเจนได้มากขึ้นโดยที่ร่างกายจะได้รับมากเพียงพอ ซึ่งจะช่วยลดการปรากฏของริ้วรอยและช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์ 2. Moisturizer Daily Moisturizer ความแห้งของผิวสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ผิวที่สูญเสียความชุ่มชื่นจากธรรมชาติด้วยวัยมันอาจจะต้องใช้การดูแลแบบเข้มงวด แม้ว่ามอยส์เจอไรเซอร์จะไม่ป้องกันริ้วรอยในทางเทคนิค แต่ก็ช่วยให้ผิวของคุณชุ่มชื้น จึงไม่เกิดริ้วรอยและริ้วรอยก่อนวัยได้ อย่างน้อยการที่คุณเติมความชุ่มชื้นเข้าไปในร่างกายได้ทุกวันมันก็ยังดีกว่าการไม่เติมอะไรให้ผิวของเราเลยจริงไหม สั่งซื้อได้ที่ : shopee.co.th/Aveeno-Ultra-Calming-Daily-Moisturizer บางครั้ง วิตามิน ก็เป็นตัวช่วยเพิ่มความเข้มข้นในการสร้างความอ่อนเยาว์ได้อีกตัวหนึ่ง แนะนำให้ลองเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็น Retinoil คุณสมบัติที่เห็นได้ชัดคือควบคุมการเติบโตของเซลล์เยื่อบุผิวเมื่ออายุมากขึ้นเราจะเริ่มสูญเสียคอลลาเจนซึ่งเป็นโปรตีนที่ช่วยให้ผิวของเราดูเรียบเนียนและยกกระชับ ช่วยให้ผิวของคุณผลิตคอลลาเจนมากขึ้น Retinoil จะมีอยู่ในส่วนผสมที่เป็นสูตรมีวิตามินเอใช้สำหรับผิวบอบบาง สั่งซื้อได้ที่ : […]
เคล็ดลับการสร้าง Curvy Body ใน 14 วัน
การมีรูปร่างโค้งมนเป็นสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนอยากจะมี เพราะมันจะดึงดูดเพศตรงข้ามได้ชะงักทันทีที่คุณเดินผ่าน แต่มันก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถมีส่วนเว้าโค้งได้รับกัน แต่ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะว่า ก่อนที่จะสร้างเรือนร่างให้โค้งมนมันจะมีอยู่สองทางในทางที่เกิดขึ้น คือ การสร้างร่างกายให้โค้งมนได้ นั่นคือเรื่องที่หนึ่ง ส่วนเรื่องที่สองก็คือการคงส่วนโค้งให้บรรลุเป้าหมายของคุณ และสองสิ่งนี้เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นการกำหนดเป้าหมายให้ตัวคุณมีการสร้างส่วนโค้งที่ถาวร มันง่ายมากที่มันจะเกิดขึ้นและก็ง่ายมากที่มันจะจากไปในเวลาอันรวดเร็ว ฉะนั้นสาว ๆ จ๋าพวกคุณมีความจำเป็นที่จะต้องฝึกฝนและสร้างมันอย่างต่อเนื่องที่คงมันไว้ เรามีเคล็ดลับดี ๆ ที่จะนำมาแบ่งปันสำหรับการสร้างสวนโค้งให้กับบอดี้ของคุณด้วยระยะเวลาสั้น ๆ เพียง 14 วัน ด้วยวิธีที่ไม่ยุ่งยากเลย 4 เคล็ดลับในการช่วยให้มีหุ่งโค้งเว้าใน 14 วัน 1. การปรับอาหารเพื่อสุขภาพในการสร้างส่วนโค้ง ส่วนโค้งที่สวยงามต้องมีลักษณะเหมือนนาฬิกาทราย ดังนั้นอาหารที่คุณใส่เข้าไปในร่างกายของคุณเป็นตัวกำหนดว่าไขมันที่คุณได้จากการกินอาหารมันถูกเก็บไว้ในส่วนไหนของร่างกาย ถูกเก็บไว้ในที่จำเป็นหรือถูกดัดแปลงไปเป็นไขมันที่ไร้ประโยชน์ ต้องมีการวางแผนเกี่ยวกับอาหารของคุณก่อนที่คุณจะเริ่มสร้างส่วนโค้งนั้น จะมีอาหารที่เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ที่จะมีคุณประโยชน์ต่อร่างกายมากที่สุด ดังนี้ อาหารโปรตีนเพื่อสุขภาพและสมบูรณ์สำหรับรูปร่างโค้งมน **คุณต้องการโปรตีน 1.5 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมเพื่อสร้างกล้ามเนื้อก้น** เนื้อสัตว์ เช่น หมูติดมัน, เนื้อไม่ติดมัน ปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาดุก แมงกะพรุน […]
การปรับนิสัยผู้หญิงให้ฉลาดขึ้น เพื่อไปสู่ความสำเร็จ
การเป็นผู้หญิงฉลาดไม่ได้หมายความว่าคุณเริ่มต้นจากการเป็นนักเรียนดีเด่นในโรงเรียน บ่อยครั้งที่เราพบว่าผู้หญิงหลังห้องมักเป็นคนที่มีความสำเร็จในชีวิตมีให้เห็นเสมอ นั่นก็แปลว่าการที่คุณเรียนเก่งตั้งแต่รู้ตัวหนังสือ จนจบมหาลัย มันวัดความฉลาดไม่ได้เลย แล้วอะไรคือความฉลาดของผู้หญิง? ผู้หญิงมักเป็นนักวางแผนที่เก่งกาจหาตัวจับยาก แต่ทว่าความฉลาดที่แท้จริงมันอยู่ที่ผลของการวางแผนนั้นต่างหาก หากคุณกำลังมองหาวิธีไปสู่ความฉลาดให้ลองดูนิสัยเหล่านี้ที่อาจจะสามารถให้คุณปรับใช้เพื่อให้ “ฉลาดขึ้น” ด้วยการพัฒนาตัวเองอย่างถูกวิธี 15 นิสัยที่ทำให้ผู้หญิงฉลาดขึ้น 1. ติดตามสถานการณ์รอบตัวในทุกวัน มันก็คือการติดตามข่าวเหมือนทุกวัน แต่ให้ลองเปลี่ยนมาเป็นการติดตามข่าวที่น่าสนในแบบสร้างสรรค์ เช่น การอนุรักษ์ธรรมชาติ การพัฒนาด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยีใหม่ ๆ การติดตามสถานการณ์ในเชิงสร้างสรรค์ 2. เรียนออนไลน์ในวิชาที่คุณสนใจ การเรียนรู้เป็นการให้อาหารสมองอย่างดีที่สุด การเช็คตัวเองถามตัวเองถึงความชอบเป็นพิเศษที่มี หรือความสนใจในเรื่องใด ให้เริ่มเรียนรู้จากสิ่งที่ตัวเองชอบและสนใจ มันจะทำให้การเรียนนั้นคุ้มค่าเสมอ 3. เล่นเกมส์ฝึกสมอง ฟังดูไร้สาระสำหรับการเล่นเกมส์ แต่คุณรู้ไหมว่าเกมส์บางชนิดก็ฝึกไหวพริบให้เราเป็นคนแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้อย่างเฉียบขาด หรือแม้กระทั่งสอนให้เรารู้จักการวางแผนเพื่อเอาชนะ ศิลปะแบบมีชั้นเชิงเหล่านี้สามารถทำให้เรามีการพัฒนาทางสมองให้ฉลาดขึ้น ผู้หญิงหลายคนชอบเล่น Sudoku มันเป็นเกมส์ที่ฝึกความฉลาดที่ Popular ที่สุดสำหรับผู้หญิงเลย 4. ฝึกการวางแผนรายสัปดาห์ จงรู้ไว้ว่าการจัดระเบียบชีวิตตัวเอง เป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตที่ประสบความสำเร็จ เพราะมันหมายถึงว่าผู้หญิงที่รู้จักการวางแผนนั่นคือมีความระมัดระวังในการใช้ชีวิตซึ่งเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนไม่ได้ตระหนักถึง 5. วางแผนการใช้เงิน วิธีสุดฉลาด เพราะการวางแผนทางการเงินเมื่อไหร่ที่มีภาวะฉุกเฉิน คนที่มีการวางแผนย่อมมีการับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นตลอดเวลา นั่นคือนิสัยของผู้หญิงฉลาดที่พวกเธอจะไม่ปล่อยให้ความผิดพลาดมาทำให้ชีวิตพวกเธอมีปัญหาได้ อันที่จริงผู้หญิงมักจะมีพรสวรรค์ในเรื่องของการวางแผนการเงินมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์เลยก็ว่าได้ […]
อาการเตือนเมื่อถึงเวลาที่สมองต้องพัก
“จิตอ่อนล้า” มักจะเป็นอาการต่อเนื่องมาจากการที่ร่างกายของเรารู้สึกอ่อนล้าหมดเรี่ยวแรง อาจจะเกิดจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือการทำงานที่หนักจนเกินไป ไม่เว้นถึงการต่อสู้กับปัญหารอบด้าน ไม่ใช่เรื่องแปลกถ้าผู้หญิงเราจะอยากนั่งเงียบ ๆ เพื่อคิดอะไรบางอย่างหรือกลายเป็นคนขี้เกียจไปชั่วขณะ เพราะบางเวลาการรับมือกับเรื่องหนัก ๆ ไม่ใช่เพียงร่างกายอย่างเดียวที่จะรับมันไม่ไหว จิตใจข้างในก็มีโอกาสเหนื่อยล้าและหยุดชะงักได้เช่นกัน หากเมื่อไหร่ที่เรารู้สึกสูญเสียความอดทนอดกลั้นกับเรื่องบางอย่าง เริ่มที่จะควบคุมการแสดงอการไม่ได้มาก นั่นก็สามารถทำให้เห็นได้ว่าจิตใจของคุณเริ่มจะหมดแรงแล้วจริง ๆ งั้นเรามาดูกันว่าสัญญาณเตือนอาการเหล่านี้มีอะไรกันบ้าง 8 สัญญาณเตือนความอ่อนล้าของจิตใจ 1. ความกระสับกระส่ายที่เป็นความทรมานจากอาการนอนไม่หลับ จนทำให้คุณต้องใช้เวลาในตอนกลางคืนหลายชั่วโมงกว่าที่จะหลับตาและสมองปิดการทำงาน 2. รู้สึกหงุดหงิดง่าย เมื่อไหร่ก็ตามที่เรารู้สึกรำคาญง่าย ๆ กับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ก่อนหน้านี้เราไม่เคยรู้สึกกับมันมาก่อน นั่นแปลว่าเริ่มมีสัญญาณที่ไม่ดีเกี่ยวกับการสูญเสียพลังงานของเรา 3. ความวิตกกังวลจากการการถูกโจมตีจากสิ่งเร้ารอบตัว เป็นการแสดงให้เห็นถึงความต้องการดูแลความรู้สึกเป็นพิเศษในทันทีทันใด 4. รู้สึกไม่มีแรงจูงใจ นั่นคิดกันง่าย ๆ มันเหมือนกับเรากำลังจมอยู่กับชีวิตที่ไม่ไปทางใดทางหนึ่ง รู้สึกไม่มีแรงผลักดันที่จะทำบางสิ่งต่อไป 5. รู้สึกถึงความเจ็บป่วยโดยเฉพาะปัญหาภายในท้องของเรา เมื่อสุขภาพจิตของเรามันเริ่มจะต้องได้รับการซ่อมแซม เราสามารถรู้ได้จากอาการเจ็บป่วยในส่วนท้องของเราที่แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน 6. เราร้องไห้ด้วยความรู้สึกที่หดหู่ไม่อยากทำอะไรเลย 7. ความรู้สึกโดดเดี่ยว โรคซึมเศร้าอยู่ไม่ไกลตัวเราเลยหากเรารู้สึกแบบนี้ เพราะเราไม่เชื่อใจกับสิ่งที่เป็นความจริงตรงหน้า 8. สูญเสียความอดทน เพราะหมดกำลังใจที่จะทำอะไร และไม่ต้องการฟังความคิดเห็นของใครอีกต่อไป […]
เคล็ดลับการดูแลน้องสาวน่ารู้
มันมีความเข้าใจแบบผิด ๆ กับการดูแลน้องสาว Vergina ของผู้หญิงที่มีความเชื่อกันว่ามันจะสะอาดได้ด้วยการคลีนด้วยน้ำยาที่เข้มข้นจะทำให้บรรดาเชื้อรา แบคทีเรียทั้งหลายจะกลัวหดหัวหายไป ไม่จริงเลย มันยิ่งจะทำให้น้องสาวเราป่วยได้ง่าย ๆ เพราะน้องสาวของเรา ๆ มีความบอกบางและต้องการการดูแลที่ทะนุถนอม หอมตามธรรมชาติ เป็นความกังวลใจอีกด้านของผู้หญิงเรากับส่วนซ่อนเร้นหรือน้องสาว มันดูน่าอับอายเมื่อที่น้องสาวของเราเกิดความผิดปรกติและเริ่มสร้างความกังวลให้เราทันทีเมื่อที่เราไม่สามารถหาสาเหตุของการเจ็บป่วยของน้องสาวได้ บ่อยครั้งที่คิดกันไปเองว่าน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะจุดที่ใช้อยู่ประจำมันอาจจะมีความเข้มข้นไม่พอ หยุดคิดหาทางแก้ด้วยตัวเองกันก่อนตอนนี้ หยุดการเร่งกระบวนการทำความสะอาดแบบเข้มข้นจนเกินไป ลองมาอ่านเคล็ดลับดี ๆ ที่นำมาแชร์กันในคอลัมภ์นี้กัน ซึ่งในรายละเอียดจะบอกถึงการปฏิบัติและดูแลน้องสาวอย่างถูกวิธีที่ไม่ใช่เพียงแค่การทำความสะอาด ยังคงมีปฏิบัติการอื่น ๆ ที่เป็นปัจจัยทำให้น้องสาวของเราป่วยได้ มีอะไรบ้างมาดูกัน 1. Skip สบู่หอม บอกกันตรง ๆ ไปเลยว่าบรรดาสบู่ที่มีกลิ่นหอมหรือแม้แต่ครีมอาบน้ำกลิ่นไฮโซท้้งหลาย หรือแม้ว่าน้ำมันมะพร้าว ยูคาลิป ลาเวนเดอร์ มันคือสิ่งที่อาจดูเหมือนเป็นเพื่อนแท้ด้านความสะอาดเฉพาะจุดของเรา แต่มันไม่เป็นมิตรที่ถาวรของน้องสาวเราแน่นอน ควรหลีกเลี่ยงสบู่หอม สบู่เหลวชนิดหอมมาก เพื่อลดอาการละคายเคืองเวลาที่เราต้องทำความสะอาดน้องสาว และซับน้องให้แห้งทุกครั้งเมื่อมีการเข้าห้องน้ำหลังจากล้างทำความสะอาด เนื้อสบู่หอมจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองจนทำให้น้องสาวมีเชื้อแบคทีเรียแบบไม่รู้ตัวเพราะความสมดุลของค่า pH หายไป 2. หลีกเลี่ยงน้ำหอม บ่อยครั้งที่ผู้หญิงเรารู้สึกต้องตกอยู่ในกลิ่นคาวไม่พึงประสงค์ที่เหมือนติดตัวไปด้วยตลอดเวลา เป็นกลิ่นที่อาจเกิดหลังจากมีรอบเดือน หรือเมื่อร่างกายอ่อนแอใช่ไหม แต่ไม่จำเป็นเลยที่เราต้องสร้างความหอมให้น้องสาวของเราด้วยการใส่น้ำหอมที่ตรงนั้น เพราะกลิ่นคาวปลาที่เราแบกกันมาก มันจะหายเองตามธรรมชาติหรือหากมีอาการที่มีอาการอื่นแทรกเข้ามาด้วย เช่น การคัน หรือแสบ […]
เปลี่ยนนิสัยสำหรับการวางแผนการเงินในอนาคต
มันมีไม่กี่อย่างในชีวิตของผู้หญิงเราที่จะทำให้เงินของเราหายไปเรื่อย ๆ จนหมดในที่สุด การปล่อยให้เงินออกไปแน่นอนเลยว่ามาจากแรงกระตุ้นจากภายในของเราเองที่ทำให้เรารู้สึกว่าต้องยอมจ่ายมันออกไป จนบ่อยครั้งที่ลืมไปว่าไม่ควรให้การจ่ายแบบนี้เกิดขึ้น เพราะจะทำให้เราจนลงในที่สุด มาดูกันว่านิสัยแย่ ๆ ที่จะพาเราไปพังมีอะไรบ้าง และวิธีที่จัดการกับสิ่งแย่ ๆ เหล่านี้ได้อย่างไรที่จะไม่ทำให้กระทบกับการดำเนินชีวิตปรกติ ก่อนอื่นเรามาดูพื้นฐาน 3 ประการที่จะทำให้เราจนกันก่อน 1. เศรษฐกิจที่ถดถอย 2. การถูกเอารัดเอาเปรียบจากสังคม 3. การตัดสินใจเรื่องการเงินที่ผิดพลาดและการดำเนินชีวิตที่ผิด ทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมา ข้อ 1 และ 2 เราอาจจะไม่สามารถควบคุมมันด้วยตัวเอง แต่ในข้อ 3 มันเป็นการควบคุมด้วยตัวของเราเองทั้งหมด มาดูกันว่ามีนิสัยแย่ ๆ อะไรบ้างที่เชื่อมกับตัวเราทำให้การเงินของเราแย่ลงไปทุกวัน และมาดูวิธีแก้ไขเปลี่ยนแปลงอย่างไรให้ดีขึ้น 1. นิสัยการกินอาหาร มีคำเปรียบเปรยที่ได้ยินกันมาและยังใช้ได้ดีจนถึงปัจจุบันเกี่ยวกับการกินกับการดำรงชีวิต อย่างคำว่า “คนเรากินเพื่ออยู่ไม่ได้อยู่เพื่อกิน” แต่รู้ไหมว่าการใช้ชีวิตของเราในปัจจุบันนี้ส่วนมากจะเป็นการ “อยู่เพื่อกิน” ซะมากกว่า การสนใจในการลองอาหารแพง ๆ เพราะคิดว่ามันเด็ด และไม่ตกเทรนด์เป็นตรรกะที่จัดว่ามีปัญหาหนักมากในสมองของเรา เหมือนในสมองของเราจะคอยสั่งตลอดเวลาว่าการกินอาหารแพงทำให้เราดูดีและอร่อยอย่างที่สุด นี่แหละเป็นปัญหาที่ร้ายแรงและจะทำให้การเงินของเราเริ่มสั่นสะเทือน เมื่อเราต้องกินมันบ่อยนั่นแปลว่าเราต้องจ่ายออกไปราวกับว่าการกินอาหารแพง ๆ เป็นเรื่องหลักในชีวิต กว่าที่เราจะหยุดมันก็ต่อเมื่อเราได้รับสัญญาณจากบัตรเครดิตว่าวงเงินเรากำลังจะเต็มหรือเมื่อเปิดกระเป๋าแล้วมันมองไม่เห็นอะไรข้างใน ลองเปลี่ยนพฤติกรรมเหล่านี้ใหม่ถ้าคุณไม่อยากจนลงเร็ว […]
เทคนิคการเปลี่ยนนิสัยหยุดกินเมื่อไม่หิว
“ทำไมฉันยังรู้สึกอยากกินต่อทั้งที่ฉันกินอิ่มแล้ว” เรื่องนี้คงต้องอธิบายกันยืดยาว เพราะมันไม่ใช่จากกระเพาะของเราเรียกร้อง แต่มันเป็นพฤติกรรมที่มาจากจิตใต้สำนึกมากกว่า บางครั้งผู้หญิงเราก็จะรู้สึกตั้งคำถามกับตัวเองว่า เมื่อสักครู่ฉันเพิ่งกินมื้อกลางวัน แล้วทำไมฉันต้องหยิบขนมเค้กตรงหน้าใส่ปากอีก ทั้ง ๆ ที่ท้องของฉันไม่ได้ส่งสัญญาณความหิวเลยแม้แต่น้อย สาเหตุเหล่านี้มีคำตอบอยู่ในบทความตรงนี้ หากสาว ๆ หลายคนกำลังมองหาวิธีแก้หรือวงจรสาเหตุของการเกิดอาการเหล่านี้ ตามอ่านกันต่อได้เลย มันมีเหตุผลทางจิตวิทยาเข้ามาร่วมกับอาการนี้ด้วย เพราะความรู้สึกต้องกินทั้ง ๆ ที่ไม่หิวมันเป็นการสั่งงานทางความคิด เราต้องจัดการกับสภาพจิตใต้สำนึกของเราที่กระตุ้นการอยากกินมากเกินไป เหตุผล 9 ประการที่ทำให้คุณยังกินอีกทั้ง ๆ ที่ยังอิ่ม 1. การขาดน้ำ น้ำเป็นองค์ประกอบหลักที่ร่างกายต้องการอย่างพอเพียงในแต่ละวัน หรือในมื้ออาหาร เมื่อร่างกายได้รับน้ำไม่เพียงพอก็เป็นไปได้ที่ทำให้เรารู้สึกกระหาย หรือเปลี่ยนเป็นความรู้สึกหิวได้เช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือการดื่มน้ำให้ได้ปริมาณเพียงพอต่อมื้ออาหารและต่อวัน จะช่วยลดปัญหาการกินไม่หยุดของเราได้ 2. การกวาดสายตาไปรอบ ๆ ในออฟฟิศดูเหมือนจะเป็นแหล่งผลิตชั้นดี เมื่อทุกคนพร้อมใจกันพกอาหาร ของว่างไว้สำหรับแก้หิวระหว่างชั่วโมงการทำงาน มันเลยกลายเป็นว่าขนมทุกชิ้นที่ถูกวางไว้บนโต๊ะ ต่อให้จบมื้อกลางวันกันไปเรียบร้อยแล้วก็ยังคงเป็น Extra food ชั้นดีที่ไม่หิวก็สามารถหยิบใส่ปากได้ตลอดเวลา หรือแม้กระทั่งในบ้านของเราเองก็ตาม การวางขนมหรือของกินไว้ตามโต๊ะรับแขก หรือโต๊ะอาหาร ชั้นวางของ ก็สามารถกระตุ้นต่อมความอยากของเราได้เช่นกัน วิธีแก้ไม่ยาก หากเป็นบ้านของเรา แค่จัดบ้านให้เป็นสัดส่วน อย่าอนุญาตตัวเองหรือคนในบ้านวางขนมหรือของกินไว้ตามจุดต่าง ๆ ให้วางไว้เฉพาะในตู้เก็บของหรือในตู้เย็นเท่านั้น […]
เคล็ดลับการปรับตัวให้เร็วหลังสูญเสียงาน
สิ่งที่ไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นเสมอ นิยามนี้ยังคงเหนียวแน่นขึ้นแท่นความเสี่ยงต่อชีวิตของคนทำงานหลาย ๆ คนกันทีเดียว ยิ่งในสถานการณ์ที่อยู่ในวิกฤตสูง ๆ ด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้เกือบทุกคนต้องตกอยู่ในสภาวะระวังระดับ Full Level การถูกเลิกจ้าง จัดว่าเป็นความโหดร้ายที่สร้างความสั่นสะเทือนต่อชีวิตของคนทำงานหลาย ๆ คนได้ และบ่อยครั้งที่ผู้หญิงจะแทบเสียสติมากกว่าผู้ชายหลายเท่าเมื่อได้รู้ว่าพวกเธอจะไม่มีงานสำหรับชีวิตพวกเธออีกต่อไป ต้องทำยังไงดี มันดูเหมือนมีมีการเลิกจ้างแบบไม่ตั้งตัว สำหรับผู้หญิงแล้วนั้นมันเหมือนกับว่าแทบจะถอนรากถอน ทัศนคติของตัวเองถูกเปลี่ยนโดยสิ้นเชิง โดยเฉพาะผู้หญิงที่มีงานทำมาตลอด และไม่เคยถูกไล่ออกหรือปล่อยมือพวกเธอมาก่อน แต่แล้วจู่ ๆ พวกเธอก็รู้สึกว่าไม่สามารถควบคุมทางเดินชีวิตที่เคยเลือกไว้ หรือการควบคุมด้านการเงินของตัวเองได้อีกต่อไป และนี่ก็เป็นสิ่งที่น่ากลัวมากสำหรับผู้หญิงเรา แต่ถึงแม้จะกลัวมากขนาดไหนพวกเธอก็รู้ทันทีว่าต้องเริ่มหางานใหม่ เพราะการว่างงานเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่ยากที่สุดในชีวิตของผู้หญิงหลาย ๆ คน แต่อย่างน้อยก็เป็นประสบการณ์การเรียนรู้ที่จะดูเหลือเชื่อเพราะสามารถสอนผู้หญิงได้อย่างมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่เราต้องการจะทำในชีวิตจริง ๆ และเราจะได้เรียนรู้ถึงวิธีการปรับตัวเองอย่างไรในบทความที่จะส่งต่อกันต่อไปนี้ ตั้งใจตั้งสมาธิอ่านกันให้ดี วิธีรับมือให้เร็วเมื่อสาว ๆ ทั้งหลายต้องสูญเสียงานแบบไม่ได้ตั้งตัว 1. บอกตัวเองว่า “ไม่เป็นไร ฉันต้องโอเค” แน่นอนว่าคำสั่งฟ้าผ่าที่ลงมากลางโต๊ะทำงานของเรา ความรู้สึกเวลานั้นมันเหมือนกับเรากำลังอยู่บนเครื่องเล่น Roller coaster การถูกเหวี่ยงอย่างแรงจนเกิดอาการวูบวาบในท้อง งง ทำตัวไม่ถูก ควบคุมแขนขาไม่ได้ แน่นอน ต่อให้มีแพ็คเกจมาชดเชยอยู่ตรงหน้า ก็ไม่ได้ดึงสติกลับมาได้มากเท่าไหร่ ให้การสูญเสียงานเป็นเรื่องตื่นเต้นที่น่าขำสำหรับครอบครัว ลองบอกเล่ากับพวกเขาด้วยความรู้สึกสนุก ถึงแม้ว่าเวลานั้นคุณต้องโศกเศร้า […]
การฝึกการมีสติเพื่อการดูแลตนเองของผู้หญิง
ก่อนอื่นต้องรู้ก่อนว่า สติคืออะไร? หลายคนบอกว่าแนวคิดเรื่องสตินั้นมีความอธิบายได้ยากและมีความคลุมเครือในบางเวลา และคำจำกัดความง่าย ๆ ของคำว่า “สติ” ก็อาจจะบอกได้ว่าเป็นความสามารถโดยกำเนิดของเราสำหรับการอยู่กับปัจจุบันได้อย่างเต็มที่ ลองพุ่งเป้าความสนใจไปที่จุดที่เรายืนอยู่ และสิ่งที่เรากำลังทำโดยไม่ปล่อยให้ความคิด ความกังวล หรือความกลัวอื่นๆ แทรกซึมเข้ามาในจิตใจของเรา เมื่อเราเริ่มฝึกสติ เราก็จะกลายเป็นคนที่มีเหตุผลกับทุกเรื่อง และไม่ตัดสินกับสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัวเราง่าย ๆ ต่อให้จิตใจของเราล่องลอยออกจากสติเราไปชั่วขณะ เราก็จะสามารถเปลี่ยนความคิดของเรากลับไปสู่ปัจจุบันได้ทันที แต่ว่าการสร้างสติไม่ได้หมายความว่าเราจะจัดตารางชีวิตและปฏิบัติมันด้วยความเคร่งครัดที่รัดแน่นจนเกินไป ทุกอย่างควรถูกสร้างด้วยความพอดี หากมากจนเกินไปเราจะได้ความตึงเครียดมาแทนที่สติ เราควรใช้สติอย่างมีศิลปะและจะทำให้เกิดประโยชน์อย่างจริงจัง ประโยชน์ของการมีสติ 1. ช่วยลดความเครียด 2. ช่วยรักษาปัญหาสุขภาพจิต เช่น โรควิตกกังวล โรคซึมเศร้า และโรคย้ำคิดย้ำทำ 3. ช่วยให้คุณมีส่วนร่วมกับกิจกรรมอื่น ๆ มากขึ้น 4. ลดความเครียดและความกังวลเกี่ยวกับอดีตและอนาคต 5. ปรับปรุงการโฟกัสอย่างจริงจัง 6. สามารถลดความดันโลหิต ลดอาการปวดเรื้อรัง ลดปัญหาทางเดินอาหาร 7. ช่วยสร้างคุณภาพสำหรับการนอนหลับให้หลับสนิทยิ่งขึ้น เริ่มต้นอย่างไรให้มีสติ เริ่มจากเรื่องเล็ก ๆ จำไว้ว่าการมีสติไม่จำเป็นต้องซับซ้อน แต่ยังคงต้องมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มการมีสติให้มากขึ้นกับกิจวัตรประจำวันของคุณ มีใจที่เปิดกว้าง การเริ่มฝึกเจริญสติในแต่ละวันอาจรู้สึกแปลก ๆ เล็กน้อยในตอนแรกของการเริ่มต้น […]
อาบน้ำยังไงให้สวย
แน่นอนว่าอาบน้ำเราอาบกันมาตั้งแต่คลอดมาจากคุณแม่กันแล้ว แล้วเราเริ่มอาบน้ำเองได้เมื่ออายุเท่าไหร่? แทบไม่มีใครจำได้ แต่ที่แน่ ๆ คุณสาว ๆ เริ่มอาบน้ำแบบจริงจังเพราะการอาบน้ำเป็นศาสตร์เริ่มต้นความสวยที่ยั่งยืน จะตึงจะยานต้องผ่านด่านการอาบน้ำก่อนอันดับแรก แต่ทว่าการอาบน้ำที่ถูกต้องเพื่อสร้างความสวยที่ยั่งยืนมันไม่ใช่แต่ เปิดน้ำ กระโดดลงไป และขัดตัวให้สะอาด ง่ายไปมั้ย? ความจริงก็คือยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นใน 15 นาทีที่คุณอยู่หลังม่าน เอาที่เห็น ๆ ก็เริ่มตั้งแต่การโกนขา จั๊กแร้ไปจนถึงการสครับผิวกายหรือไม่จริง และบทความต่อไปนี้เป็นตัวช่วยเพื่อให้กระบวนการทั้งหมดมีประสิทธิภาพและดียิ่งขึ้นสำหรับผิวของคุณจากการอาบน้ำ เมื่อใดที่คุณมีนิสัยการอาบน้ำที่ดี เมื่อนั้นสุขภาพบางอย่างที่เป็นสิ่งที่ดีก็จะเริ่มขึ้น และรู้ไหมว่าเครื่องมือที่คุณสามารถใช้เริ่มต้นทำความสะอาดร่างกายของคุณสิ่งแรกเลยคือ อุณหภูมิของน้ำ และแม้แต่ตัวเลือกในการล้างร่างกายก็อาจส่งผลต่อผิวของคุณได้ เราลองมาเริ่มง่าย ๆ ในบทความนี้ในเรื่องของการอาบน้ำยังไงให้สวย และสิ่งที่ไม่ควรทำในเวลาอาบน้ำกันเพื่อการแบ่งปันความสวยให้กับผู้หญิงหลายคนที่กำลังหลงวิธีการอาบน้ำที่ผิดอยู่ #หยุดการอาบน้ำร้อนจัด การอาบน้ำอุ่นทำให้รู้สึกดี แต่ต้องไม่ร้อนเกินไปสำหรับผิวของคุณ อุณหภูมิสำหรับน้ำอุ่นที่พอเหมาะให้ใช้อุณหภูมิเริ่มต้นที่ 37 องศาเซลเซียส แต่ไม่ควรเกิน 42 องศาเซลเซียส อุณหภูมิระดับนี้จะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น ทำให้ร่างกายตื่นตัว แต่ไม่ควรอาบหรือแช่น้ำร้อนเกิน 15 นาที เพราะอาจทำให้ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไปทำให้สูญเสียน้ำเนื่องจากการเสียเหงื่อ ทำให้เกิดอาการหน้ามืด เป็นลมได้ นอกจากนี้ยังทำให้ผิวแห้ง มีผื่นขึ้น ผิวเหี่ยว หรืออาจทำให้เลือดคั่ง การอาบน้ำอุ่นในอุณภูมิที่เหมาะสมจะช่วยเปิดรูขุมขน ลอกผิวที่ตายแล้วออก และดูดซับความชื้นที่จำเป็นมากออกจากผิว […]
