คำแนะนำการเริ่มต้นสำหรับการแต่งงานของผู้หญิงวัยรุ่น

มีคำถามสำหรับผู้หญิงหลายคนว่าอะไรที่เรียกว่าเป็นการแต่งงานของวัยรุ่น คำว่า “วัยรุ่น” มักจะเป็นหนุ่มสาวที่มีอายุระหว่าง 20-25 ปี หากต่ำกว่านี้เราจะเรียกช่วงวัยนั้นว่าเด็ก ส่วนวัยที่สูงกว่านี้ก็จะจัดเป็นวัยเข้าสู่วัยทำงาน 

สำหรับวัยเด็กเราไม่ต้องพูดถึงเพราะการลงเอยด้วยการแต่งงานมีไม่มากนัก สำหรับวัยทำงานเป็นวัยที่มีความพร้อมมากพอที่จะรู้ว่าพวกเขาต้องปฏิบัติตัวอย่างไรกับการแต่งงานเพื่อเริ่มการมีครอบครัว

แต่สำหรับวัยรุ่น แน่นอนว่ามันคาบเกี่ยวระว่างสองวัยข้างต้น ดังนั้น บางโมเม้นก็จะมีความเป็นเด็กและความรอบคอบยังคงบกพร่องอยู่บ่อย ๆ แต่ไม่เป็นไรเรามีขั้นตอนของลำดับสิ่งที่ควรทำเมื่อวัยรุ่นสาวน้อยทั้งหลายจะต้องเข้าพิธีแต่งงาน 

10 เคล็ดลับสำหรับสาว ๆ ที่กำลังเข้าพิธีแต่งงานกับหนุ่ม 

มันก็ไม่ดูว่าเร็วเกินไปถ้าคุณสาว ๆ มีความรักที่เต็มอิ่มและอยากใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคน แต่มันอาจจะดูยุ่งยากหน่อยหากคุณอายุ 21 และเจ้าบ่าวของคุณอายุ 24 มันดูไม่น่ามีปัญหาอะไรมากมายนักเพราะมันเป็นการร่วมต้นการใช้ชีวิตด้วยกัน แต่ข้อสงสัยกับการเริ่มต้นย่อมมีแน่นอน ค้นหาคำตอบและวิธีเดินเข้าสู่การเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างไม่ผิดพลาดด้วยคำแนะนำเหล่านี้กัน

1. เตรียมพร้อมสำหรับการแต่งงานและงานแต่งงานของคุณและเจ้าบ่าว

สถานที่ อุปกรณ์ ชุด รายชื่อและจำนวนแขกผู้เข้าร่วมงาน ความวุ่นวานเหล่านี้ไม่จบเพียงวันเดียวแน่  ให้ใช้เวลาบางส่วนเพื่อเตรียมตัวสำหรับการแต่งงานของคุณ เช่น คุณอาจมองหาใครสักคนที่เคยผ่านการพิธีแต่งงานมาแล้ว เพื่อให้คำปรึกษาก่อนงานแต่งงานของคุณ คุณและว่าที่เจ้าบ่าวของคุณได้ลองหาหนังสืออ่านด้วยกัน ลองหาเป็นหนังสือสำหรับสิ่งที่คุณทั้งคนต้องรู้ให้ได้ก่อน “We Got Married”

2. อย่าคาดหวังสิ่งต่าง ๆ เป็นเรื่องง่าย

ต่อให้พยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการมีชีวิตหลังแต่งงานได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องของความรู้สึกบางครั้งคุณจะตื่นขึ้นและคิดว่าคุณได้แต่งงานกับเทพบุตรที่ส่งตรงมาจากสวรรค์ แต่ทว่ามันไม่ใช่ ให้เราคิดเอาไว้บ้างว่าบางเวลาเทพบุตรก็อาจหลุดเป็นคนธรรมดาได้เหมือนกัน มันยังจะมีบางวันที่อะไรมันดูแย่ไปหมด แต่จำไว้ว่าทุกวันที่พระอาทิตย์ขึ้นคือโอกาสใหม่ที่จะได้ปรับปรุงใหม่

3. Love Languages

ภาษารัก เป็นสิ่งที่สาว ๆ ผู้น้อยประสบการณ์ควรได้เรียนรู้ไว้เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับการใช้ชีวิตคู่สิ่งแรกที่ต้องเรียนรู้กันก่อนเลยคือ “ภาษารัก คืออะไร?” 

ภาษารัก คือการแสดงออกเรื่องความรู้สึกที่คุณมีต่อคนรักของคุณ อาจจะง่าย ๆ เช่น การบอกรักด้วยการ กอด สายตาสุดซึ้ง การทำอะไรเพื่อเขา ดูแลเขา หรือแม้กระทั่งการให้ของขวัญ หากสิ่งนี้ถูกละเลยมันก็อาจจะทำให้การใช้ชีวิตคู่ของคุณและเขายากขึ้น

4. Apology Languages

การเรียนรู้ที่จะ “ขอโทษ” สำคัญไม่แพ้กับ Love Languages เลยสักนิดเดียว การขอโทษเหมือนเป็นการรักษาอาการเจ็บปวด และเยียวยาความรู้สึกเสียใจ เจ็บปวดจากการไม่เข้าใจกันในบางเวลา เมื่อที่คุณเรียนรู้ที่จะส่งภาษารัก คุณก็ต้องเรียนรู้การขอโทษด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เพียงแค่คุณ คนรักของคุณก็เช่นกัน Both of you

5. นัดเดทกันบ้าง

ไม่ใช่เรื่องแปลกต่อให้คุณแต่งงานร่วมใช้ชีวิตด้วยกัน ต่อให้การมีลูกก็ไม่ทำให้คุณจะไปเดทกันไม่ได้ คุณอาจสร้างบรรยากาศเหมือนวันแรกที่เริ่มคบกัน อย่าลืมจัดสรรเวลากับสามีที่รักของคุณเพื่อออกไปทานอาหารเย็นหรือแม้แต่ดูหนังที่บ้านตามลำพังกันบ้าง จะเป็นการเติมเต็มความรักกันไปในทุก ๆ วันไม่เบื่อ

6. การจัดระเบียบทางการเงิน

6. การจัดระเบียบทางการเงิน

ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องรวย และยังคงมีความเชื่อที่ว่าการสร้างชีวิตต้องมีบ้านและมีงานที่ดีก่อนที่จะแต่งงาน มันไม่แน่เสมอไปว่าคุณจะทำมันได้จริงมั้ย มันอาจเป็นไปได้ว่าตอนที่คุณจะแต่งงานกัน คุณอาจจะเพิ่งเป็นนักศึกษาปีสุดท้าย หรือพนักงานฝึกหัดคุณอาจจะไม่ต้องการเงินจำนวนมากมายนักสำหรับการเริ่มต้น แต่คุณควรมีนิสัยที่ดี ตัดสินใจร่วมกันเสมอกับสามีที่รักของคุณว่ารายจ่ายจำเป็นของคุณและเขาต้องมีเท่าไร ออมเพื่อเก็บเพื่อเป็นการป้องกันการขัดแย้ง และหลีกเลี่ยงปัญหาทางการเงินในอนาคต

7. ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง และกับเพื่อนบ้าง

การแต่งงานมีชีวิตคู่มันก็ไม่จำเป็นที่ต้องสิงร่างกันตลอดเวลา ตามธรรมชาติผู้หญิงหรือผู้ชายต้องมีช่วงเวลาที่ต้องการอยู่คนเดียวเงียบ ๆ บ้าง การได้ทำในสิ่งที่อยากทำมาก ๆ อาจจะเป็นเรื่องที่ไร้สาระที่ต้องทำเมื่อเวลาอยู่คนเดียว หรือการได้มีเวลาเพื่อการสร้างความสวยด้วยวิธีเละเทะที่สามีที่รักของคุณอาจจะไม่อยากเห็น 

เมื่อเรามีครอบครัว ให้เพื่อนเรายังคงเป็นเพื่อนของเรา และเพื่อนของเขายังคงเป็นของเขา อย่างไรนะหรือ ก็คือการได้ใช้ชีวิตกับเพื่อนของคุณเองบ้าง และให้เขาได้ไปใช้เวลาอยู่กับเพื่อนของเขาด้วย เพราะถึงอย่างไรสุดท้ายคุณและสามีที่รักของคุณก็ต้องกลับมานอนเตียงเดียวกันอยู่ดี หรือหากคุณมีงานอดิเรกที่ชอบและกีฬาที่รัก อย่าหยุดทำมันต่อแต่แค่ให้จัดลำดับความสำคัญ

8. เปิดใจคุยกับคู่แต่งงานที่มากประสบการณ์

8. เปิดใจคุยกับคู่แต่งงานที่มากประสบการณ์

การแต่งงานในวัยหนุ่มสาวอาจมีเพื่อนที่แต่งงานแล้วในวันนี้ไม่มากเท่าไหร่นัก แต่รู้ไหมว่านี่เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะว่าคู่สามีภรรยาคู่อื่นที่มากประสบการณ์ช่วยพวกคุณได้ในการเดินทางกับชีวิตคู่อย่างระมัดระวัง ให้ลองมองหาคู่แต่งงานที่คุณเชื่อใจในพวกเขาและสามารถพูดคุยอย่างจริงใจกับพวกเขาได้ และจะดีที่สุดคือแยกออกไปแบบชายต่อชาย หญิงกับหญิงมันจะทำให้ได้คำตอบที่ยอดเยี่ยมมาก 

มีคู่รักจำนวนมากต้องผ่านการต่อสู้ที่มีเหตุการณ์คล้ายกัน การรู้ว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวและได้รับคำแนะนำนั้นช่วยได้มากและคุณและสามีที่รักของคุณต้องเปิดใจที่จะเข้าถึงมัน

9. เรียนรู้ที่จะเสียสละ

การเสียสละมักจะมาพร้อมกับความหมายเชิงลบเสมอ อย่างไรหรือ มันจะใช้เป็นคำถามเมื่อเวลาที่คุณรู้สึกเหนื่อยล้าที่สุด “ทำไมต้องเป็นเราที่ต้องยอม” แน่นอนการมีชีวิตคู่ไม่ว่าเขาหรือคุณจะต้องยอมสละบางสิ่งเพื่อสร้างความสุข และสมดุลในชีวิตคู่ของคุณ แต่การเสียสละนั้นมีค่ามากกว่าข้อเสียอื่น ๆ หากนำมาเปรียบเทียบกัน จงเรียนรู้ที่จะเสียสละอย่างเต็มใจเพื่อเป็นความเข้าใจในความสัมพันธ์ของคุณ

10. เตรียมตัวสำหรับการตั้งครรภ์

นี่คือเรื่องสำคัญมาก เพราะชีวิตของคุณทั้งสองคนจะเปลี่ยนไปในทันที การมีลูกคือการทุ่มเททั้งชีวิตของเราเพื่อเขา ดังนั้นต้องมีการเตรียมตัวและวางแผนอย่างดี และแน่นอนว่าพ่อแม่วัยรุ่นแทบไม่มีประสบการณ์ คุณอาจจะคุ้นเคยกับการมีน้องเล็ก หรือบางคนเป็นลูกคนสุดท้อง นึกภาพไม่ออกกันเลยทีเดียว

สิ่งที่ควรทำคือเข้ารับการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อการใช้ชีวิตให้ถูกต้องตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ตั้งแต่การปฏิบัติตัว การดูแลสุขภาพจิต ไปจนถึงการวางแผนสำหรับการดูแลลูกของคุณเมื่อเขาเกิดมา 

มันไม่ได้ง่ายกับการเข้าสู่ประตูของการมีชีวิตคู่แต่ที่มันยากคือช่วงวัยของคุณต่างหาก แต่มันก็ไม่เป็นปัญหาที่ใหญ่มากมายนัก เพียงแต่คุณต้องเรียนรู้ให้มากเพราะชีวิตคู่ที่ไร้ประสบการณ์มันสามารถทำให้เกิดความไม่ราบรื่นระหว่างทาง ใช้วิธีเบื้องต้นเหล่านี้เพื่อนำไปสู่การเดินก้าวต่อไปอย่างถูกต้อง สล็อต pg เว็บตรง


Credit สล็อตฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ