ฝันร้ายของผู้หญิงอีกเรื่องที่นอกเหนือจากการมีผิวที่พังแล้ว ใต้ดวงตาก็เป็นตัวพรากความมั่นใจกับความเปร่งปลั่งออกไปจากเราได้ การมีผิวหน้าที่แห้งไม่พอยังตอกย้ำความพังด้วยความแห้งใต้ดวงตาเสริมพลังความพังพินาศให้กับความสวยของผู้หญิงไปอีก
เชื่อเลยล้านเปอร์เซนต์ผู้หญิงหลายคนพยายามหาล้านแปดวิธีเพื่อเพิ่มความตึง ลดความแห้ง หยุดริ้วรอยกันให้วุ่นวายในแต่ละวัน มาหยุดความพังจากสิ่งเหล่านี้กันค่ะ เรามีเคล็ดลับที่จัดว่าเด็ดในเวลานี้มาให้ผู้หญิงที่กำลังลองผิดลองถูกมาให้เลือกวิธีที่ดีที่สุด ลดความพังสร้างความปังแทนกันค่ะ
13 เคล็ดลับการใช้คอนซีลเลอร์ให้ได้ผลลัพธ์แบบไร้ที่ติ
Concealers ตัวช่วยของผู้หญิงสำหรับความสวยใต้ดวงตา แต่รู้ไหมว่าการใช้งานคอนซีลเลอร์ไม่ใช่เพียงแค่ใช้มันเพื่อกลบเกลื่อนริ้วรอยหรือรอยคล้ำเท่านั้น เราต้องรู้จักเวลาในการใช้มันให้ตามเวลาที่ควรจะใช้มันด้วย เพราะการใช้คอนซีลเลอร์ตามใจคุณเองก็ทำให้พังได้เหมือนกันเพราะคอนซีลเลอร์จะบอกคุณเลยว่าจะไม่ทนถ้าคุณใช้มันไร้สาระเกินไป
มาดูกันว่าคู่มือการรับมือรอยยับจากคอนซีลเลอร์ที่สร้างความน่ารำคาญใจแบบเด็ดประสิทธิภาพสูงแต่ทำง่ายมากขั้นตอนความเป็นมาแบบเป็นข้อ ๆ ชัดเจนกันไปเลยค่ะ
เคล็ดลับที่ #1
ให้ความสนใจกับใต้ตาของคุณให้มาก รู้กันอยู่แล้วว่าใต้ตาของเรามีความบอบบางมาก ๆ ลากเสียงยาว ๆ เลยค่ะ และเป็นจุดที่มีความ Sensitivity ต่อการสัมผัส เรียกได้ว่าสัมผัสปั๊บความยับเตรียมรอต่อคิว นั่นหมายความว่าเราต้องแยกการดูแลส่วนนี้ให้แตกต่างจากส่วนอื่นบนใบหน้า และต้องดูแลแบบเน้นเฉพาะได้ยิ่งดี
การให้ผลิตภัณฑ์รอบดวงตาจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นในการเลือกเค้นหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณสมบัติที่เน้นการเสริมสร้างและอ่อนโยนให้มากที่สุดสำหรับส่วนสัมผัสใต้ตา เพราะริ้วรอยจะวิ่งเข้าเส้นชัยเป็นสิ่งแรกและความพังหลาย ๆ จะตามมาติด ๆ
เคล็ดลับที่ #2
เลือกครีมบำรุงรอบดวงตาที่ดีที่สุด เมื่อเกิดความแห้งแร้งบนผิวหน้าแน่นอนว่ามันจะต้องรุกลามมาถึงใต้ดวงตาอันเป็นที่รักของคุณอย่างแน่นอน ดังนั้นเมื่อคุณเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับใบหน้าแล้ว คุณต้องแยกเติมความชุ่มชื้นด้วยครีมเข้มข้นสำหรับรอบดวงตาของคุณทันทีและต้องแยกส่วนพื้นที่การทาอย่างชัดเจน
และการใช้ครีมรอบดวงตานอกจากให้ได้ผลที่ดีเมื่อใช้ตอนกลางคืนแล้ว Day ของคุณก็สำคัญนะคะเพราะต้องหาครีมบำรุงใต้ตาก่อนที่จะเริ่มขั้นตอนการเมคอัพ วิธีทาง่าย ๆ คือให้ทาครีมรอบดวงตาโดยเผื่อแผ่ความชุ่มชื้นไปยังเปลือกตา และพื้นที่รอบดวงตาของคุณเพื่อป้องการมีริ้วรอย และเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คอนซีลเลอร์ตกร่อง
เคล็ดลับที่ #3
รองพื้นใต้ตาอย่างดีเพื่อป้องกันริ้วรอย “Primer” อย่างเพิ่งงงกันนะคะสาว ๆ จริงอยู่เราใช้ไพร์เมอร์ในการปิดบังริ้วรอย ส่วนใหญ่กับดวงตาเราจะใช้สำหรับเปลือกตา แต่รู้มั้ยว่าไพร์เมอร์สามารถใช้บำรุงความชุ่มชื้นใต้ดวงตาเป็นอย่างดี เราสามารถแตะไพร์เมอร์ให้เหมือนกันครีมรอบดวงตาได้เลยค่ะ เพียงเกลี่ยที่ใต้ดวงตาก่อนที่จะลงคอนซีลเลอร์ คุณเชื่อไหมว่ามันจะสามารถทำให้ใต้ดวงตาเนียนเรียบกริบแบบวิเศษสุด ๆ
เคล็ดลับที่ #4
เลือกคอนซีลเลอร์ให้เหมาะสมกับผิวของคุณ คุณผู้หญิงรู้ไหมว่าทำไมบางคนไม่ประสบความสำเร็จในการใช้คอนซีลเลอร์หรือเรียกง่าย ๆ ว่าใช้กี่ตัวก็พัง ก็เพราะการเลือกคอนซีลเลอร์ไม่เข้ากับผิวของตัวเอง บางคนอยากกลบคล้ำแต่ความขาวเกินก็ไม่กลมกลืนก็พังได้ค่ะ
ก่อนจะเริ่มใช้คอนซีลเลอร์ ลองมาศึกษาเกี่ยวกับคุณสมบัติของคอนซีลเลอร์กันก่อนนะคะว่าแต่ละตัวมีการทำงานอย่างไร และตัวไหนที่จะเหมาะสมกับคุณ
How to Choose the Right Concealer : เลือกให้เหมาะได้อย่างไร
สิ่งแรกก่อน ควรรู้เกี่ยวกับประเภทของ Concealer กันก่อนนะคะ มีทั้งหมด 4 ประเภท
- Liquid Concealer คอนซีลเลอร์ชนิดน้ำ แนะนำ : Shape Tape จาก Tarte
- Cream Concealer คอนซีลเลอร์ชนิดครีม ตัวนี้เหมาะสำหรับ Strong Make up นะคะ สาว ๆ ที่ต้องการความแน่นสำหรับปาร์ตี้ข้ามคืนหรือประชุมพรีเซนต์งานสำคัญ แนะนำ : NYX concealer palette ตัวนี้เด็ดจริง
- Stick Concealer คอนซีลเลอร์แบบแท่ง อันนี้ใช้ง่ายค่ะแต่เกลี่ยลงหน้าเราเบา ๆ ลงบนพื้นที่ยุทธศาสตร์เน้นจุดสำคัญ แต่อยากให้ลองหาแปรงมาใช้แตะจากแท่งอีกทีนะคะเพื่อป้องกันเชื้อแบคทีเรียจากการใช้เกลี่ยลงบนผิวของเรา บางครั้งผิวของเราก็เป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียชั้นดีเกินไปค่ะ มีตัวเด็ดมาแนะนำ : Neutrogena
- Pencil Concealer คอนซีลเลอร์ดินสอส่วนใหญ่หลายคนคิดว่าจะเหมาะกับส่วนโค้งโคนคิ้ว แต่อันที่จริงมันจะเป็นความแม่นยำแบบมืออาชีพเวลาที่คุณนำมันมาใช้ใต้ดวงตา มันสามารถเน้นส่วนที่คุณต้องการปกปิดได้อย่างตรงจุด
ประเภทคอนซีลเลอร์ด้านบน คุณผู้หญิงสามารถเลือกใช้ได้ตามความถนัดเลยนะคะ การเลือกคอนซีลเลอร์ดี ๆ มาใช้และใช้มันให้เหมาะกับactivity ของตัวเองนั่นคือความลงตัวที่เพอร์เฟคที่สุดละค่ะ ลองให้คอนซีลเลอร์ดี ๆ เป็นการ Make your day ที่ดีมาก ๆ เลยนะคะ
เคล็ดลับที่ #5
เลือกคอนซีลเลอร์ที่มีการปกปิดริ้วรอยที่ The Best and The Best มันมีเทคนิคแต่ละฤดูกาล อย่างเช่นหน้าหนาวก็ควรเลือกคอนซีลเลอร์แบบน้ำที่มีความชุ่มชื้นกับรอบดวงตา หรือฤดูร้อนก็ควรจะเป็นคอนซิลเลอร์เนื้อครีมที่ไม่หนาเกินไป และควรเป็นแบบกันเหงื่อจะดีมาก
ข้อควรระวังสำหรับคอนซีลเลอร์แบบน้ำบางตัว การมีตัวเคลือบหรือกักเก็บความชุ่มชื้นมากเกินไปก็อาจทำให้ระคายเคืองกับคนผิวแห้งได้ง่าย ต้องระวังในการใช้ด้วยนะคะ
เคล็ดลับที่ #6
หลีกเลี่ยงคอนซีลเลอร์เนื้อครีม หากคุณผู้หญิงยังไม่โปรมากพอในเรื่องของการเกลี่ยคอนซีลเลอร์ให้เนียนเรียบใต้ตา ให้ลองมองเป็นคอนซีลเลอร์น้ำหรือแบบ Stick ดูนะคะ เพราะเนื้อครีมถ้าไม่รู้จักวิธีเกลี่ยที่ถูกวิธีหรือมีความชำนาญ ตกร่องแน่นอนค่ะ อย่างเสี่ยงหากเรายังไม่เก่งพอเพราะจะทวีความพังใต้ตาของคุณทำให้วันนั้นเป็น Bad day ของคุณผู้หญิงทั้งวัน
เคล็ดลับที่ #7
ใช้ Foundation อย่างถูกวิธี หากคุณผู้หญิงบางคนไม่อยากให้มีหลายขั้นหลายตอนกับการกลบริ้วรอยรอบดวงตา สะดวกที่จะให้รองพื้นมากกว่าเพราะประหยัดเวลา ย่อมทำได้ค่ะแต่ต้องระวังกันเยอะสักหน่อย เพราะบอกก่อนนะคะว่ารองพื้นไม่เหมาะที่จะนำมาใช้ปกปิดใต้ดวงตา เพราะรองพื้นเป็นตัวที่จะสร้างร่อง สร้างริ้วรอยใต้ดวงตาอย่างเห็นชัดหากคุณใช้มันแทนคอนซีลเลอร์ แนะนำว่าไม่ควรใช้รองพื้นใต้ดวงตาเลยจะดีกว่าค่ะ ใช้พัฟลงแป้งเบาบริเวณใต้ตาหรือแปรงปัดเบา ๆ หาคุณไม่ต้องการคอนซีลเลอร์จริง ๆ
เคล็ดลับที่ #8
ใช้คอนซีลเลอร์ให้ถูกวิธี ยกตัวอย่างง่าย ๆ คอนซีลเลอร์แบบน้ำหรือ Liquid Concealer เป็นตัวที่แน่นชัวร์ที่สุดสำหรับการแต่งหน้าแบบที่ต้องการการปกปิดเต็มขั้น
แต่เทคนิคที่ไม่สร้างริ้วรอยสำหรับการใช้ Liquid Concealer ให้เพอร์เฟค เพียงแต่แตะเกลี่ยเบา ๆ ทิ้งความห่างจากระยะขนตามาให้มีช่องว่าเล็กน้อย เพราะเราไม่ต้องการให้เป็นคราบเละ ๆ เหมือนขนมเค้กใต้ตา
เคล็ดลับที่ #9
เกลี่ยคอนซีลเลอร์ให้เร็วที่สุด ให้ทำเหมือนเป็นนักแต่งหน้ามืออาชีพ แตะแล้วปาดให้เร็วเท่าที่จะทำได้เพื่อป้องกันการทิ้งระยะทำให้คอนซีลเลอร์เริ่มซึมและแห้ง เพราะถ้าทิ้งระยะไว้นานจนแห้ง เวลาที่คุณตบแป้งลงไปจะทำให้เกลี่ยแป้งยากขึ้นและไม่เรียบเนียน
เคล็ดลับที่ #10
เริ่มสังเกตความเรียบเนียน หลังจากลงคอนซีลเลอร์เรียบร้อยแล้ว ให้ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที คุณอาจจะแต่งส่วนอื่นไปพราง ๆ และกลับมาลองสัมผัสเบา ๆ เพื่อตรวจความเรียบเนียนหรือหากมีการเกิดร่องจะสามารถเห็นได้หลังจากนาทีนี้
เคล็ดลับที่ #11
เป็นขั้นตอนต่อจาก 10 นะคะ หลังจากเช็คคอนซิลเลอร์แล้วพบว่าเกิดความพัง ตกร่อง เละเป็นเค้ก ให้ทิ้งไว้ตามเวลาในเคล็ดลับที่ 10 คือประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นเกลี่ยความเรียบร้อยด้วยฟองน้ำนุ่ม ๆ ค่อย ๆ กดทับลงไปบนคอนซิลเลอร์เบา ๆ เพื่อซับเอาคอนซิลเลอร์ส่วนเกินออกโดยใช้ฟองน้ำช่วยซับออก แนะนำสำหรับเทคนิคการลงแป้งเล็ก ๆ อย่าลงแป้งทันทีหลังลงคอนซิลเลอร์ ให้รอจนกว่าคอนซิลเลอร์จะเข้าไปเซ็ทตัวกลบร่องให้เข้าที่ แล้วค่อย ๆ ลงแป้งเกลี่ยให้เบามือที่สุดสำหรับบริเวณใต้ตาค่ะ
เคล็ดลับที่ #12
การเลือกใช้แป้งบริเวณใต้ตา ควรจะเน้นที่แป้งโปร่งแสงหรือสีสว่างนั่นเองค่ะ มีเทคนิคง่าย ๆ ที่เรียกกันว่า Quick Baking การปัดแก้มอย่างเร็วด้วยแปรงปัดด้วยแป้งโปร่งแสงที่นุ่มที่สุด และรอเช็คอีกสักรอบเพื่อความแน่ใจในความเรียบเนียน หากพบกว่าแป้งที่ปัดลงไปหนาเกินไปให้ใช้แปรงนุ่มค่อย ๆ ปัดออกไปทีละนิดจนกว่าจะมองไม่เห็นร่อง
เคล็ดลับที่ #13
เคล็ดลับสุดท้ายสำหรับการบล็อคคอนซีลเลอร์ ง่าย ๆ ด้วยการฉีดสเปรย์ลงไปตรงบริเวณใต้ตา เพื่อล็อคแป้งและคอนซีลเลอร์ ใช้ฟองน้ำกดทับลงไปอีกทีเบา ๆ เท่านี้ก็จะทำให้ใต้ตาของคุณเรียบเนียนประสบความสำเร็จกับการใช้คอนซิลเลอร์ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มความไบร์ทให้กับดวงตาได้อย่างสมบูรณ์
นี่คือผลลัพธ์จากสิ่งที่คุณผู้หญิงจะได้จากเคล็ดลับทั้งหมดนี้ หากสามารถทำได้ครบทั้ง 13 ลำดับ
13 เคล็ดลับทั้งหมดนี้ สรรสร้างมาเพื่อให้ใช้และทำความเข้าใจกับหน้าที่ของคอนซิลเลอร์ให้ชัดเคลียร์ขึ้น หากคุณเข้าใจถึงวิธีการทำงานของมัน จะทำให้การแต่งหน้าตรงจุดที่พีคที่สุดง่ายขึ้นในพริบตา และเป็นเรื่องง่ายที่ไม่ทำให้คุณผู้หญิงทั้งหลายต้องรำคาญใจอีก