สัญญาณเตือนความสัมพันธ์ที่ใกล้พังลงที่ผู้หญิงควรรู้

ความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนไม่สามารถส่งต่อความรู้สึกให้กันและกันต่อไปได้อีก มันสามารถเรียกได้ว่าเป็นความสัมพันธ์ที่เข้าสู่ภาวะ Toxic Relationship แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่ยังคงมองโลกสวยงามจนบางครั้งอาจจะทำให้มองไม่เห็นถึงสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น และไม่สามารถรับมือได้ทัน

แล้วเราจะรับรู้ความสัมพันธ์ที่เริ่มเข้าสู่ความเป็นพิษได้อย่างไร เชื่อกันว่าผู้หญิงหลายคนมักไม่ค่อยรู้ชะตากรรมตัวเองเท่าไหร่นักกับการเปลี่ยนแปลงของคู่รักสักเท่าไหร่ เพราะเมื่อไหร่ที่ผู้หญิงเริ่มรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงพวกเธอจะพยายามปรับ แก้ไขทุกทางที่ทำได้แต่สุดท้ายต้องจบอยู่ดี

หากคุณไม่อยากต้องเป็นผู้หญิงที่ยังพยายามจนถึงจุดจบ มาลองดูวิธีเหล่านี้กันว่าจะสามารถพาคุณข้ามสัญญาณจุดจบเหล่านี้ได้อย่างไรแบบที่คุณไม่บาดเจ็บ 

ความสัมพันธ์ที่เป็นพิษคืออะไร?

ง่าย ๆ เลยการเริ่มไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณพยามทำ เพราะผู้ชายของคุณอาจจะหมดความสนใจกับสิ่งที่คุณทำไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ หยุดการประนีประนอมในเรื่องที่สามารถทำได้ ฉุนเฉียวใส่อารมณ์กับเรื่องผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ มองคุณค่าของคุณต่ำกว่าตัวเขา และที่สำคัญคุณเริ่มไม่มีความสุขกับการอยู่ตรงนี้และเริ่มไม่อยากกลับบ้าน

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงมักมีความอดทนที่น่าอัศจรรย์ บ่อยครั้งที่คุณรู้สึกว่าไม่มีความสุขแต่คุณก็ยังไม่อยากให้ความสัมพันธ์จบลง คุณเริ่มพยายามที่จะปรับความเข้าใจและเริ่มคิดว่าแต่เพียงความเข้าใจอะไรก็จะกลับมาเหมือนเดิม การบงการก็เริ่มขึ้น คุณเริ่มมองว่าการที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นคือการอยู่ภายใต้อำนาจของเขา เชื่อฟัง และยอมทำตาม เพราะเพียงแค่ความคิดของคุณว่า “คุณยังรักเขาอยู่” 

คุณรู้ไหมว่าสิ่งเหล่านี้จะดึงชีวิตดี ๆ ของคุณออกไปจากตัวคุณและจะทำให้คุณกลายเป็นคนที่ขาดความมั่นใจ เกลียดตัวเอง และไม่กล้าที่จะยอมรับความจริง หรือคุณอาจไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ของคุณอยู่ในภาวะที่เป็นพิษ มาดูกันว่าสัญญาณอะไรบ้างที่จะบอกคุณว่าถึงเวลาแล้วที่คุณต้องเตรียมพร้อมรับมือกับมัน

10 สัญญาณที่บอกว่าความสัมพันธ์ของคุณเป็นพิษ

1. อารมณ์ที่แปรปรวน

อาการเหมือนกับ “ทั้งรักทั้งเกลียด” ในเวลาเดียวกัน คุณจะรู้สึกว่าคุณไม่อยากเห็นหน้าเขา ไม่อยากทะเลาะ เบื่อหน่ายจนคิดว่าอยากเห็นสุนัขที่คุณเลี้ยงตอนตื่นนอนมากกว่าเขาด้วยซ้ำ สิ่งนี้เกิดได้มาจากการถูกกระทำที่ไร้เหตุผลจากเขาซ้ำ ๆ จนทำให้คุณรู้สึกว่าอยากมีเขาอยู่ห้องใดห้องหนึ่งในบ้าน หรืออยากให้เขาไปพักร้อนยาว ๆ สักพัก แต่ก็ไม่อยากเลิก

2. เริ่มโกหกในความสัมพันธ์

ก็คือการสร้างภาพรักษาหน้า โกหกเพื่อนทุกครั้งที่ถามคุณด้วยคำตอบว่า “ทุกอย่างปรกติดี” แต่ลึก ๆ ในใจคุณอาจจะกำลังร้องไห้และต่อต้านสิ่งที่คุณพูดออกไปว่ามันไม่จริงเลย แต่คุณแค่ไม่อยากให้ใครเข้าร่วมกับปัญหาของคุณก็เท่านั้นเอง

3. การถูกดูถูกจากผู้ชายของคุณ

เมื่อการมีชีวิตคู่รักที่ดีติดต่อกันมาด้วยการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน แบ่งปันซึ่งกันและกัน แต่วันนี้เริ่มมีการค่อนแคะกับตำแหน่งหน้าที่การงาน หากเขาอยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่าคุณและมีค่าตอบแทนที่มากกว่า และเขาเริ่มที่จะมองคุณด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปและเขาเริ่มรู้สึกว่าที่ผ่านมาเขาต่างหากที่เป็นฝ่ายแบกภาระที่มากกว่า เพราะคุณมีรายรับที่น้อยกว่าเขาและแทบไม่ได้ช่วยอะไรเขาได้เลย 

4. การเริ่มต่อสู้กับทุกสิ่งตรงหน้า

เมื่อการปะทะกันเกิดขึ้น จากผู้หญิงอ่อนหวานนิ่งและมีรอยยิ้มให้เขาเสมอ เริ่มกลายเป็นการโต้เถียงและต้องการหาเหตุผลมาเพื่อเอาชนะเขาเสมอต่อให้เรื่องนั้นเป็นแค่เรื่องการทิ้งขยะไม่ลงถังก็ตาม นั่นเริ่มเป็นการก่อควันไฟในบ้านเข้าให้แล้ว

5. ความรู้สึกโดดเดี่ยว

มันมักจะมีความรู้สึกเข้ามาวูบหนึ่งในขณะที่คุณนั่งอยู่ข้าง ๆ กันบนโซฟาตัวโปรดเพื่อดูซีรีย์สักเรื่องแต่กลับมีความรู้สึกว่างเปล่าเหมือนคุณอยู่คนเดียว หรือแม้กระทั่งเขานั่งอยู่ที่ส่วนหนึ่งของบ้าน แต่คุณกลับไม่รู้สึกอะไรเลย แต่กลับเป็นความรู้สึกโล่งใจที่ไม่ต้องเห็นหน้า

6. สุขภาพของคุณได้รับผลกระทบ

สิ่งแรกที่กระทบแบบเต็มที่นั่นก็คือด้านจิตใจ ความหดหู่ ขาดกำลังใจ อาจถึงขั้นไม่มีแรงที่จะขยับร่างกายให้กระฉับกระเฉง เมื่อไหร่ที่จิตใจของคุณเริ่มสร้างความทุกข์จะส่งผลต่อร่างกาย สังเกตได้ง่าย เช่น น้ำหนักที่ลดลง ผิวหน้าที่ดูหมองคล้ำจากการนอนหลับไม่เพียงพอ

7. คุณรู้สึกเป็นฝ่ายผิด

เมื่อโลกสีชมพูจบลง โลกอีกใบก็จะเข้ามาแทนที่ การโดนบูลลี่ทุกวันหรือแม้กระทั่งการโยนความผิดที่จะมาเป็นระยะ ๆ มันจะถูกฝังอยู่ในสำนึกของคุณ จนบางวันคุณรู้สึกว่าคุณแบกความผิดไว้ทั้งโลก ไม่ว่าจะทำอะไรความผิดก็จะวนเวียนอยู่ในเซลล์สมองของคุณ

8. คุณขอโทษตลอดเวลา

เมื่อความสัมพันธ์เริ่มเลวร้ายลง สถานการณ์มักจะทำให้คุณโดนตอกย้ำความเจ็บปวดและผู้ชายของคุณบังคับให้คุณต้องเป็นฝ่ายขอโทษอยู่ตลอดเวลา 

9. ต้องควบคุมคำพูดของตัวเองตลอดเวลา

กลัวไปหมด เริ่มรู้สึกไม่อยากออกความเห็นหรือถามคำถามใด ๆ กับผู้ชายของคุณถึงแม้เรื่องเล็ก ๆ คุณขาดความมั่นใจ และต้องย้ำคิดคิดย้ำว่าสิ่งที่พูดออกไปจะเป็นที่พอใจหรือเปล่า กลายเป็นว่าพื้นที่ใสสมองของคุณมีแต่คำถามเต็มไปหมด จนในที่สุดความเงียบก็จะเข้ามาแทนที่ และการไม่ตอบก็จะกลายเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับความรู้สึกนี้

10. คุณไม่ใช่คนสำคัญ

ความรู้สึกโดดเดี่ยวเริ่มเข้ามา เมื่อไหร่ที่ความสัมพันธ์ของคุณกำลังอยู่ในภาวะเป็นพิษ แน่นอนว่าความสำคัญของคุณที่เคยมาก่อนทุกอย่างมันจะถูกพับเก็บไปไว้ในลิ้นชัก คนอื่นจะมาก่อนคุณเสมอคุณเหมือนจะไม่มีตัวตนหรือเป็นคนสำคัญที่จะเขาจะนำมาเปรียบเทียบว่าคุณต้องมาก่อนอีกต่อไป เพราะคุณเป็นเพียงภาพเลือนลางของเขาไปในทุก ๆ วัน

วิธีจัดการกับความสัมพันธ์ที่เป็นพิษนี้

อาจจะบอกคุณไม่ได้ว่าให้จบความสัมพันธ์ด้วยการจากไป หรือการหย่าร้าง แต่คุณจะต้องเรียนรู้ความรู้สึกเหล่านี้ด้วยตัวของคุณเอง ความเสียหายที่มันเกิดขึ้นแล้ว คุณได้พยายามมันแล้ว ให้สิ่งเหลานี้ก็ได้เข้ามาทำลายชีวิตของคุณไปเรียบร้อยแล้วเช่นกัน 

คุณต้องรีบหมุนตัวเองกลับอย่างรวดเร็ว ลองตั้งสติแล้วถามตัวเองว่าคุณกำลังทำอะไรอยู่ ให้เป็นบทเรียนที่จะทำให้คุณได้โตไปอีกขั้นด้วยการทำความเข้าใจและเดินออกมาจากภาวะความสัมพันธ์ที่เป็นพิษร้ายเหล่านี้อย่างรวดเร็ว และบทเรียนความรักนี้จะสอนให้คุณเป็นคนแข็งแกร่ง และให้รู้ไว้ว่าคุณคือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของตัวคุณเอง เพราะความสุขและการตัดสินใจบางอย่างในชีวิตมันออกมาจากตัวคุณไม่ออกจากใครเลย

คุณสามารถร้องไห้กับมันได้แบบสุดกำลัง เกลียดตัวเองได้แบบไม่ต้องยั้งคิด เกลียดได้ทั้งโลกและเมื่อไหร่สิ่งเหล่านี้มันเต็มเหนี่ยวแล้ว มันจะสร้างพลังแบบไม่น่าเชื่อ คุณจะลุกขึ้นแล้วเดินออกมาได้แบบไม่ลังเล คุณจะสามารถทิ้งความรู้สึกน่ารังเกียจเหล่านั้นและเอาตัวเองออกมาได้แบบไม่น่าเชื่อ  

คุณอาจจะคิดว่าความรักไม่มีอยู่จริง แต่ให้รู้ไว้ว่าต่อให้โลกดับความรักก็ยังคงหมุนอยู่รอบจักรวาล มันเพียงแค่คุณยังไม่เจอความรักที่แท้จริง แต่ยืนยันว่าความรักดี ๆ มีในโลกและจักรวาลนี้เพียงแต่คุณต้องเปลี่ยนตัวเองให้เข้มแข็งและรอเวลาเท่านั้นเอง และจงรอคอยสิ่งนี้อย่างมีความสุข เว็บสล็อต