หน้าใหม่ใครก็อยากมี ใหม่และดีได้ทุกวันยิ่งชอบคุณว่าจริงไหม แต่ก่อนอื่นคุณต้องตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่าการบริหารใบหน้าของคุณและการดูแลอยู่ทุกวันนี้คุณเลือกวิธีดูแลต่าง ๆ เหล่านั้นเพื่อจุดประสงค์ใด เช่น ตามกระแสนิยม อยากทดลอง สิ่งเหล่านี้ก็ไม่ผิด แต่อันที่จริงสิ่งที่คุณควรตระหนักถึงให้มากที่สุดคือ สิ่งที่คุณกำลังทำต่อใบหน้าของคุณมันเป็นสิ่งที่เหมาะกับใบหน้าของคุณและผิวของคุณแล้วหรือ?
วิวัฒนาการของการดูแลใบหน้าได้ถูกพัฒนาอย่างน่าทึ่ง จนเป็นตัวดึงดูดความสนใจและสร้างความกระตือรือร้นให้กับผู้หญิงที่ต้องการลัดขั้นตอนความสวยด้วยการใช้นวัตกรรมเหล่านี้ อย่างเช่น การใช้กระบวนการแสง และการผลัดทรีตเมนต์เข้าสู่ผิวหน้า เราได้นำเอาวิธีการผลัดทรีตเมนต์หรือกระบวนการทำหน้าสวยด้วยกระบวนการและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาให้คุณได้เรียนรู้ถึงการทำงานของขั้นตอนเหล่านี้อย่างเคลียร์ชัด เพื่อให้คุณได้ใช้เป็นทางเลือกเพื่อความสวยที่ปลอดภัย
การรักษาหน้าด้วยวิธีทันสมัยปี 2022
การสร้างหน้าใหม่เราจะเรียกกันอีกอย่างก็ได้ว่า Classic Face การสร้างหน้าให้เป็นคลาสสิค เฟส ก็ด้วยนวตกรรมด้านเทคโนโลยี หรือเทคนิคการผสมผสานระหว่างการนวดด้วยมือและใช้เทคโนโลยีเข้าร่วม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแบบเข้มข้นล้ำลึก มีอะไรบ้างมาดูกัน
1. Lymphatic Massage Facial
การนวดน้ำเหลือ หรือการเดรนน้ำเหลืองบนใบหน้า วิธีนี้เป็นการช่วยเรื่องการผ่อนคลายใบหน้าที่ตึงเครียดจากการทำงานมากเกินไป ทำให้การไหลเวียนของเลือดบนใบหน้าไม่คล่องตัวสักเท่าไหร่ ส่งผลให้ต่อมน้ำเหลืองต่าง ๆ มีการหยุดชะงักลงเป็นครั้งคราว
ดังนั้นการนวกระตุ้นน้ำเหลืองจึงเป็นวิธีเบสิคที่คลาสสิคที่ใช้กันมายาวนาน นั่นก็คือการนวดด้วยมือจากบริเวณใบหน้าไปจนถึงลำคอ เพื่อให้การหยุดชะงักและอุดตันของต่อมน้ำเหลืองต่าง ๆ ได้เริ่มทำงานได้ดีขึ้น และเป็นการเดรนเอาน้ำเหลืองที่เสียและสารพิษออกจากใบหน้าของคุณด้วย
2. Microcurrent Facial
การบำบัดหน้าด้วยไฟฟ้า เป็นการใช้คลื่นไฟฟ้าเข้าไปช่วยเป็นตัวกระตุ้นและเติมทรีตเมนต์ให้กับผิวหน้าแบบล้ำลึก ที่เรียกว่า microcurrent ช่วยเรื่องการกระตุ้นกล้ามเนื้อใบหน้าให้ยกกระชับแบบธรรมชาติ โดยเฉพาะการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวด้วยไฟฟ้า เป็นการทำงานที่ค่อนข้างเห็นผลดีเยี่ยม และมีความปลอดภัยสูง โบท็อกซ์ต้องหลบ
ยิ่งไปกว่านี้การใช้ไฟฟ้าเป็นตัวกระตุ้นความอ่อนเยาว์ยังมีอีกวิธีที่นิยมกันอย่างมากนั่นก็คือ Galvanic เป็นการปล่อยไฟฟ้าเข้าไปเติมทรีตเมนต์หน้าด้วยการจัดการความชรา ลดริ้วรอย อีกทั้งยังช่วยเรื่องการปรับโทนสีใบหน้าจากการหมองคล้ำไม่ว่าจะเป็นความเครียดภายในทำให้เม็ดสีอ่อนแอหรือแม้กระทั่งแสงอาทิตย์ที่ทำลายเม็ดสี กระชับใบหน้า กระตุ้นคอลลาเจน วิธีนี้แทบครบจบจริง ๆ
3. High-Frequency Facial
การรักษาด้วยการใช้คลื่นความถี่สูงเข้าไปกระตุ้นด้วยการนำพาออกซิเจนเข้าสู่ผิว เหมาะสำหรับผิวที่เป็นสิวจะรักษาได้ดี เพราะการใช้คลื่นความถี่สูงด้วยการเพิ่มออกซิเจนด้วยระอองน้ำขนาดเล็ก เพื่อทำงายแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดสิว พลังจากออกซิเจนจะเริ่มกำจัดสิ่งที่ทำให้เกิดสิวจากการสัมผัส
จะมีการใช้คลื่นอยู่ 2 แบบ นั้นก็คือ คลื่นความถี่แบบก๊าซอาร์กอนและก๊าซนีออน คุณลักษณะที่แตกต่างกันคือ ก๊าซอาร์กอนจะเป็นสีม่วงจะทำงานดีสำหรับผิวที่เป็นสิวและมีผิวมัน ส่วนการทำงานของก๊าซนีออนช่วยเรื่องการต่อต้านวัย และส่วนใหญ่วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ต้องการรักษาสิว ให้เลือกใช้แบบ Argon หรือไวโอเล็ตวาไรตี้
4. Microdermabrasion
เป็นวิธีการรักษาที่จัดว่าเป็นน้อง ๆ ของวิธีด้านบน เพราะเป็นการรักษาแบบผิวสัมผัสที่มีความเบา แต่ความลงลึกก็ไม่เป็นสองรองใคร สำหรับ Microdermabrasion จะเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ง่าย และมีอุปกรณ์ที่จะมีปลายเป็นเพชรหรือคริสตัล
การทำงานของอุปกรณ์ชนิดนี้ไม่ค่อยต่างอะไรกับการขัดหน้าที่ค่อนข้างออกแรง เพราะการเคลื่อนคริสตัลไปทั่วไปหน้าเท่ากับคุณทำความสะอาดแบบขูดผิว เป็นการผลัดเซลล์และกระตุ้นการเจริญเติบโตของคอลลาเจนและอีลาส
ติน ผิวที่ผ่านการผลัดเซลล์ด้วยอุปกรณ์หัวคริสตัลนี้จะสัมผัสผิวใหม่ที่มีสุขภาพดีขึ้น โดยเฉพาะริ้วรอย รูขุมขน และรอยแผลเป็นจะจางลงหรือหายไปในรายที่ยังเริ่มต้น อุปกรณ์และวิธีนี้เหมาะสำหรับทุกคนทุกวัยที่ต้องการกำจัดริ้วรอย รอยแผลเป็น และความหมองคล้ำ
5. LED Light Therapy
วิธีนี้บอกชัดเจนว่าเป็นการบำบัด สำหรับผิวที่ตรากตรำบอบช้ำคล้ำแบบสุด ๆ โดยใช้ความยาวคลื่นแสงเพื่อรักษาปัญหาผิว แต่มีความแตกต่างกันทางการรักษาเพราะสีจากแสงที่มีหลายสีจะมีการทำงานและหน้าที่ที่แตกต่างกัน เพราะสีที่ต่างกันทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อผิวหนังต่างกัน และผิวหนังแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
Blue light therapyแสงสีน้ำเงิน จะเป็นนักต่อสู้กับผิวที่มีการอักเสบน้อยจนถึงมาก จึงใช้สำหรับการกำจัดแบคทีเรียที่จะทำให้เกิดสิว
Red light and near-infra-red lightแสงสีแดงและแสงอินฟราเรดจะช่วยให้ผิวของคุณหายเร็วขึ้น เป็นการฟื้นฟูผิวด้วยการกระตุ้นคอลลาเจน ส่งเสริมการเจริญเติบโตอวบอิ่มของผิวหน้า ทำให้เส้นริ้วรอยหายไป
6. Fractional CO2 Laser
การผลัดผิวด้วยเลเซอร์นิยมใช้กันมาช้านาน แต่การพัฒนาของเลเซอร์ก็ยกระดับขึ้นเรื่อย ๆ จนมาเป็น Fractional CO2 Laser มีการทำงานเรื่องของการทำงานผิดปรกติของผิวหนังภายในที่ลึกลงไป ทำให้เกิดฝ้า กระ รอยแผลเป็น รอยสิว
วิธีนี้อาจจะทำให้ผิวหนังของคุณเจ็บปวดเล็กน้อย เพราะเป็นการกระตุ้นค่อนข้างลึกเพื่อสร้างเซลล์ใหม่ จึงไม่เหมาะกับคนที่เป็นสิวอักเสบรุนแรงเพราะจะทำให้ผิวช้ำลงมากกว่าเดิมสร้างการอักเสบได้ง่าย อาจจมีอาการแสงร้อนหลังทำเล็กน้อย
7. Oxygen Facial
การผลักออกซิเจนเข้าสูใบหน้าโดยใช้ความดันอากาศสูง วิธีนี้จะทำหลังจากที่ได้ทำความสะอาดหน้าด้วยการนวดและขัดหน้าผัดเซลล์ที่ตายแล้วออกไปจนหมด และใช้อุปกรณ์นี้เติมเซรั่มและวิตามินเข้าสู่ผิวหน้าพร้อมออกซิเจน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับทกสภาพผิว เพราะเป็นการให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวและเพิ่มความกระจ่างใสของผิวให้ดูสดใสอย่างยาวนาน โดยเฉพาะผู้ที่มีผิวหมองคล้ำและเหนื่อยล้ามาก ๆ จะเห็นได้ชัดว่าวิธีนี้เหมาะกับพวกคุณที่สุด
8. Microneedling
การรักษาผิวหน้าด้วยเข็มขนาดเล็กจิ๋ว เป็นการจิ้มลงไปเพื่อสร้างจุดน้ำตาที่กล้ามเนื้อบนในหน้าเพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เป็นวิธีที่เห็นผลได้เร็วสำหรับผู้ที่มีผิวที่กำลังแย่ลง เป็นการฟื้นฟูแบบทันใจแต่ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด มีความจำเป็นต้องใช้ครีมชาเพื่อป้องกันการเจ็บในขณะที่ใช้เครื่องมือจิ้มลงใบบนผิวหน้า และอาจจะต้องให้ผิวพักฟื้นห้ามโดนแดดสักระยะเวลาหนึ่ง
วิธีนี้มีความโดดเด่นเรื่องการกระชับริ้วรอย กำจัดริ้วรอยแบบเร่งด่วนและเห็นผลทันทีหลังทำ คุณจะสังเกตเห็นผิวที่กระชับปราศจากรูขุมขนเนียนเหมือนผิวเด็ก แต่ทว่าต้องแลกมากับกับความเจ็บแต่ก็ถือว่าคุ้ม
9. Dermaplaning Facial
เป็นการรักษาผิวหน้าด้วยการขูดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกแบบหมดจดเกลี้ยงเกลา รวมไปถึงขนบนใบหน้าสีพีชที่จะทำให้ใบหนาหมอคล้ำ ด้วยการใช้มีดผ่าตัดขนาดเล็กจิ๋วขูดมันออกไป อาจฟังดูเป็นวิธีที่น่ากลัวสักหน่อยแต่มันไม่ได้ดุดันขนาดนั้น เพียงแค่วุ่นวายกับผิวหน้าด้านนอกสุดเท่านั้นเอง
วิธีนี้ก็ยังคงไม่เหมาะกับคนที่เป็นสิวเรื้อรังและยังอยู่ในระหว่างการรักษา คุณจะใช้วิธีน้ำทำความสะอาดใบหน้าได้ก็ต่อเมื่อสิวของคุณแห้งเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่คุณได้ใช้วิธีนี้คุณจะได้รับผิวหน้าใหม่ที่ดูสดใสเรียบเนียน เป็นที่กักเก็บชั้นดีให้กับสารต้านอนุมูลอิสระ ฟังดูน่ากลัวแต่วิธีนี้ได้หน้าเนียนจริง ๆ
10. PRP Facial
วิธีนี้เรียกกันว่า Platelet Rich Plastmaวิธีสร้างหน้าแวมไพร์ นั่นคือการเจาะเอาเกล็ดเลือดบนใบหน้าของคุณออกมาทำปฏิกิริยาภายนอกโดยการปั่นแยกเกล็ดเลือดเพื่อดึงเอาพลาสมาออกมา แล้วฉีดกลับเข้าไปในใบหน้าของคุณอีกครั้ง วิธีนี้ให้ความอมตะด้วยความอ่อนเยาว์ สมกับที่เรียกหน้าแวมไพร์
ไม่ว่าคุณจะสนใจนวัตกรรมตัวไหนก็ตาม การเข้าใจผิวหน้าตัวเองย่อมสำคัญเสมอ ผิวหน้าของคุณอาจจะเหมาะกับหลาย ๆ ข้อ แต่มันก็อาจจะให้ผลลัพธ์ไม่ได้จริงนั่นก็เป็นเพราะผิวหน้าของคุณไม่ตรงกับการรักษาวิธีนั้น ก่อนจะเริ่มเข้าสู่วงการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง