เทคนิคการแต่งตัวให้ดูรวยมากกว่าเงินในกระเป๋า
เมื่อนิยามของคำว่า “คนรวย” ส่วนใหญ่มักจะเป็นคนที่มีเงินในบัญชีที่มากกว่าคนอื่น มีรถยนต์หรูขับ เสื้อผ้าเครื่องประดับแบรนด์เนม มีรสนิยมในการรับประทานอาหาร และไม่กินอาหารข้างทาง แต่สำหรับบางคนไม่ได้มีในองค์ประกอบเหล่านี้เลย แต่อยากทำให้ตัวเองดูเป็นคนรวยด้วยเหตุผลบางประการ ทำได้จริงแต่มันอาจไม่ยั่งยืน แต่เราก็จะให้เทคนิคง่าย ๆ กับคนที่อยากให้ดูรวยในแบบของเศรษฐีงบน้อย และดูรวยได้ในราคาประหยัด มันอาจฟังดูตลกหรือดูพยายามแต่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดหากการพยามนี้จะทำให้คุณได้อยู่ในสังคมที่ร่ำรวยเพื่อการต่อยอดชีวิตของคุณ มาดูเทคนิคเหล่านี้กันเลย 1. ชุดที่เลือกใส่เนื้อผ้าต้องดูดี การสวมเสื้อผ้าร้านสตรีททั่ว ๆ เป็นเสื้อผ้าราคาถูกด้วยการใช้เนื้อผ้าในการผลิตเป็นแบบถูก แต่ก็ยังมีเนื้อผ้าบางอย่างที่สามารถช่วยทำให้ดูหรูหราอย่างเช่น โพลีเอสเตอร์ ไนลอน และเรยอน ไม่แนะนำให้เป็นผ้าฝ้ายหรือขนสัตว์ 2. การเลือกให้คุณภาพเหนือปริมาณ พฤติกรรมการซื้อทั่วไปของคนเราในการเลือกซื้อเสื้อผ้า มักจะสิ้นเปลืองกับการซื้อเสื้อผ้าตามเทรนด์แฟชั่นและการซื้อส่วนใหญ่ตามกระแสก็จะเป็นเสื้อผ้าที่มีราคาถูกแต่คุณภาพไม่ได้เลย วิธีนี้มันจะทำให้คุณต้องสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ แนะนำให้คุณซื้อเสื้อผ้าแบบแบรนด์เนมที่ไม่ต้องซื้อบ่อยแต่คุณภาพยังอยู่ได้นาน และเป็นดีไซน์ที่ไม่โลดโผนจนเกินไป ให้อยู่ในระดับกลางเพื่อนำไปแมทต์กับแบบอื่นได้ 3. มองหาความคุ้มค่าที่สุด จริงอยู่ว่าเสื้อผ้าแบรนด์เนมมีราคาแพง แต่คุณภาพของมันก็สูงตามราคาไปด้วย คุณอาจจะเริ่มมองหาร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์เนมมือสองที่คุณภาพดีน่าเชื่อถือ ราคาเสื้อผ้าแบรนด์มือสองเหล่านี้จะถูกลงมาเกินกว่าครึ่งในบางรุ่นแต่ก็ไม่เอาท์ 4. ดูแลเสื้อผ้าให้อยู่ในสภาพดี การเก็บรักษาเสื้อผ้าให้อยู่ในสภาพดีเราจะพูดถึงการซักทำความสะอาด การดูแลเรื่องสีของเสื้อผ้าที่ไม่ควรดูซีดสีตก หรือการรีดเสื้อผ้าให้เรียบเนี้ยบจะเพิ่มความดูหรูหราได้ในระดับหนึ่งโดยเฉพาะกางเกงที่ต้องการมีความคมชัดที่รูปทรงในขณะรีด และการให้กลิ่นหอมของเสื้อผ้าก็เป็นสิ่งที่สำคัญ การไม่ปล่อยให้เสื้อผ้าอับชื้นมีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์เป็นความสำคัญเพราะต่อให้คุณใส่เสื้อผ้าแบรนด์ดังแต่กลิ่นไม่น่าชื่นชมเท่าไหร่นัก เสน่ห์ของคุณก็จะดับลงไปพร้อมกับกลิ่นเหล่านี้ 5. การใส่ใจรายละเอียด รายละเอียดที่นี้เราหมายถึงการมิกซ์แอนด์แมทต์ให้เข้ากัน ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์การแต่งตัวหรือแม้กระทั่งสีที่เลือกใช้ หากคุณต้องการใช้สีฉูดฉาดคุณก็ต้องเข้าใจการตัดสีแบบมีรสนิยม หรือการใช้โทนขาวและดำในการสร้างสุขหรูหรา เทคนิคที่กล่าวมาทั้งหมด […]
แต่งลายพรางอย่างไรให้ดูเป็นสาวฮอต
เมื่อลุคลายพรางไม่ได้มีแค่ผู้ชาย ทำไมผู้หญิงจะใส่บ้างไม่ได้เมื่อโลกนี้มีทหารหญิงเหมือนกัน กับแฟชั่นลายพรางที่เป็นกระแสสั้น ๆ แต่ค่อนข้างเห็นบ่อย จนตอนนี้ลายพรางกลายเป็น Daily Dress สำหรับผู้หญิงไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้วงการแฟชั่นไม่รอช้า จับลายพรางปรับลุคให้กับผู้หญิงไม่ว่าจะเป็นกลุ่มกางเกง หรือเสื้อคลุมทั้งหลาย แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่า ผู้หญิงที่อยากดูแข็งแกร่งกับลายพรางอาจจะไม่มีไอเดียที่น่าสนใจนัก เราได้นำเอาไอเดียของผู้หญิงหลายสไตล์ และการมิกซ์แอนด์แมทต์ให้เสื้อผ้าตัวอื่นมาใส่เข้ากับชุดลายพรางของคุณ ให้ดูน่าสนใจและที่สำคัญไม่ดูเป็นไอเดียสนามรบมากเกินไป ลองมาดูและหยิบใช้ไอเดียเหล่านี้มาลองฟิตกับคุณดู ไอเดียจับเสื้อผ้าในตู้คู่ลายพราง 1. จับเข้ากับเสื้อสีเข้มจัด ให้คุณลองหยิบเสื้อผ้ายืดสีสดในตู้ที่คุณไม่ค่อยกล้าใส่มันเท่าไหร่มาใส่คู่กับกางเกงลายพรางทรงสกินนี่ ให้เสื้อด้านบนเป็นสีที่ฉูดฉาดและเข้ารูปแบบพอดีเพื่อให้คุณได้อวดสรีระที่มีเหลือเฟือของคุณ สำหรับลุคนี้จะเหมาะสำหรับการสร้างลุค casual สวมรองเท้าส้นสูงหัวแหลมสีเบสอย่าง ดำ น้ำตาล ก็ดูเป็นสาวรันเวย์ได้แล้ว 2. Rock A Jacket & Shirt Dress ให้ลองลายพรางอยู่บนเสื้อเชิ๊ต คุณไม่จำเป็นต้องนำมาใส่เดี่ยว ให้คุณแปลงเสื้อเชิ๊ตลายพรางของคุณเป็นเสื้อคลุมตัวเก๋หากคุณไม่มี jacket ลายพราง สองอย่างนี้สามารถหาแทนกันได้ด้วยการใส่ให้เป็นสไตล์ Jacket คลุมทับ 3. จัดให้เข้าด้วยรองเท้า ผู้หญิงหลายคนอาจคิดมาตลอดชั่วชีวิตว่า ลายพรางจะเหมาะกับเฉพาะผ้าใบหรือบูททหารเท่านั้น หากคุณไม่ออกนอกกรอบความคิดนี้ คุณก็จะไม่สามารถสร้างสไตล์ตัวเองใหม่ ๆ ได้เลย คุณรู้ไหมว่า กางเกงลายพรางมันดูดีและเสริมลุคมากเมื่อคุณใส่มันกับ high […]
ใช้สกินแคร์ผิดชีวิตเปลี่ยนสำหรับผู้หญิง 40+
เมื่อผู้หญิงต้องเข้าสู่วัยผู้ใหญ่เลข 4 องค์ประกอบโดยรวมของร่างกายเริ่มทำงานได้ช้าลงแม้กระทั่งการผลิตสารบางตัวที่จะช่วยเรื่องผิวพรรณก็อ่อนแอลงไปด้วย ความเข้าใจเกี่ยวกับการดูแลผิวในช่วงวัยนี้หลายคนอาจคิดว่าควรบำรุงแบบเข้มข้นล้ำลึก มันก็ใช่แต่ไม่ทั้งหมด เพราะสกินแคร์ที่มีส่วนผสมบางตัวก็จะทำให้เกิดอันตรายกับผิวได้ คุณรู้ไหมว่ายิ่งผู้หญิงเรามีอายุที่มากขึ้น ผิวที่อ่อนแอจะไม่สามารถทนต่อส่วนผสมของสกินแคร์บางอย่างได้ดีเท่ากับผิวของสาว ๆ วันรุ่น คุณจึงจำเป็นต้องระวังในการเลือกสกินแคร์ที่ต้องใช้กับผิวโดยเฉพาะผิวหน้า ดังนั้น ผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปีควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมบางตัวที่เรานำมาให้คุณได้อ่านและหลีกเลี่ยง เพื่อความแข็งแรงของผิวและได้รับความอ่อนเยาว์ ด้วยการทดแทนด้วยสกินแคร์ที่มีความอ่อนโยนกว่าเพื่อให้คุณได้ฟื้นฟูผิวได้รวดเร็วและสวยงาม เปล่งปลั่งสุขภาพดีในวัย 40 มาดูกัน 1. Sulfates ซัลเฟต ส่วนใหญ่ผู้หญิงวัยนี้มักจะคิดว่าการล้างหน้าต้องสะอาดในครั้งเดียว หลายคนอาจเลือกใช้สบู่ที่มีโซเดียม ลอริลซัลเฟต (SLS) มาเป็นส่วนผสมในสบู่ล้างหน้าและผลิตภัณฑ์ล้างหน้าตัวอื่น จริงอยู่ว่าส่วนผสมชนิดนี้ทำหน้าที่ได้ดีในการกำจัดไขมันและสิ่งสกปรก เราอยากเตือนคุณว่าส่วนผสมนี้จะกลายเป็นตัวขัดขวางการป้องกันผิวตามธรรมชาติของผิวคุณออกไปจนหมด หลังจากนั้นจะทำให้ผิวหน้าเกิดอาการระคายเคือง เป็นสาเหตุทำให้เกิดผิวที่แก่ก่อนวัยได้อย่างรวดเร็วมาก และในบางผลิตภัณฑ์ยังพบน้ำยาทำความสะอาดที่มาพร้อมกับซัลเฟตเพื่อช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันบนผิวของคุณ ถึงแม้ว่าส่วนผสมเหล่านี้จะสามารถใช้กับผิวได้ แต่ก็ไม่ควรนำมาใช้กับผิวของผู้หญิงวัยนี้ เพราะความแห้งจะทำให้ผิวหน้ากร้านและแย่ลงไปอีก 2. Glycolic Acid กรดไกลโคลิก ถึงแม้ว่ากรดไกลโคลิกมักจะถูกจัดว่าเป็นสกินแคร์สำหรับขัดผิวที่มีประสิทธิภาพ แต่มันเหมาะสำหรับผิวของวัยรุ่นที่มีผิวที่อ่อนเยาว์มีความแข็งแรงกว่าผู้หญิงที่เข้าสู่วัยเลข 4 ผลิตภัณฑ์นี้มักถูกยกย่องว่าเป็นผลิตภัณฑ์ผลัดเซลล์ผิวที่มีประโยชน์สำหรับผิวที่อ่อนเยาว์ แต่อาจไม่ได้ผลที่ต้องการเช่นเดียวกันกับผิวที่แก่ก่อนวัย เพราะกรดไกลโคลิกเป็นสารเคมีขัดผิวที่แรง เพราะการทำงานของกรดไกลโคลิกตามธรรมชาติแล้ว จะใช้มันเพื่อเติมความชุ่มชื้นลดความแห้งกร้านและป้องกันการระคายเคืองต่อผิว จึงอาจทำให้เกิดอันตรายต่อผิวของคุณมากกว่าดูแล สำหรับสารเคมีที่มีหน้าที่ขัดผิวโดยทั่วมักใช้เพื่อทำความสะอาดชั้นผิว ขจัดสิวหัวดำ และรูขุมขนที่อุดตัน และเรามักพบส่วนผสมนี้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวและผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสำหรับแต่งหน้า ควรเลือกสกินแคร์ที่ไม่มีส่วนผสมของกรดไกลโคลิกที่มากเกินไป หรือไม่ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง […]
ลบรอย Sun Tan จากผิวด้วยตัวช่วยที่คุ้นเคย
แสงอาทิตย์มักไม่ค่อยเป็นมิตรกับผิวสาวสักเท่าไหร่ แต่กิจกรรมโปรดของสาว ๆ ส่วนใหญ่ก็มักจะต้องปะทะกับแสงอาทิตย์เกือบทั้งหมด โดยเฉพาะกิจกรรมทางทะเลกับชุดบิกินี เปลือยเท้าเดินบนหาดทราย เป็นกิจกรรมมินิมอลที่มีคะแนนความนิยมมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ทว่าความสุขมักมีได้ไม่นาน สิ่งที่ต้องเผชิญและรับมือจากกิจกรรมนี้นั่นก็คือการฝากรอยจากแสงอาทิตย์ที่เราเรียกมันว่า Sun Tan หรือการมีเท้าสีแทนนั่นเอง ความอับอายบังเกิดเมื่อคุณต้องสวมรองเท้าเปลือยเท้าในบางเวลาแน่นอนว่าคุณคงไม่อยากให้ใครมองว่าผิวเท้าของคุณจึงดูเหมือนม้าลาย เมื่อการล้างเท้าให้สะอาดหลังจากกลับถึงบ้านและให้ความชุ่มชื้นทันทีหลังจากนั้น ยังไม่สามารถลบรอยออกไปได้อย่างเร็ว ลองมาดูวิธีการขจัดสีแทนออกจากเท้าของคุณด้วยวิธีง่าย ๆ อย่าปล่อยให้มันสายเกินไป 1. Tomato Tan Removal Scrub สครับขัดผิวมะเขือเทศ วัตถุดิบในครัวที่หยิบง่ายที่สุด มะเขือเทศ ที่ไม่ได้มีดีแค่ช่วยให้ผิวเนียนเปล่งเท่านั้น เพราะมะเขือเทศเป็นสารฟอกขาวที่ธรรมชาติสร้างมาได้อย่างดี ให้คุณหั่นมะเขือเทศหนึ่งชิ้น นำมาถูไปที่เท้าไปเรื่อย ๆ หรือคุณอาจจะบดมะเขือเทศจนละเอียด นำไปผสมกับส่วนผสมอื่นอย่างน้ำตาลหยาบ เพื่อทำเป็นสครับมะเขือเทศและทำได้อีกแบบคือการคั้นน้ำมะเขือเทศผสมกับน้ำตาลหนึ่งช้อนเต็มแล้วถูเบา ๆ เป็นการสครับน้ำมะเขือเทศลงไปบนเท้าของคุณ ให้แปะทิ้งไว้ทั่วเท้า 30 นาที ล้างออกด้วยน้ำเย็น ให้ทำตามขั้นนตอนนี้ทุก ๆ สองวันเพื่อกำจัดผิวสีแทนออกไปได้เร็วที่สุด 2. Lemon And Honey Feet Mask มาส์กน้ำผึ้งมะนาว เป็นวัตถุดิบพื้นฐานที่เห็นได้ทั่วไปและมีประโยชน์ครอบจักรวาลมากสำหรับสูตรนี้ และเป็นที่ทราบกันดีว่ามะนาวเป็นสารฟอกขาวที่มีความเป็นกรดแรงมาก และมักจะใช้มันบนใบหน้าของเราเพื่อกำจัดการเม็ดสีแทนและเพื่อให้ผิวดูสว่างขึ้น และมันก็สามารถนำมาใช้กับกับเท้าได้เช่นกัน ให้คุณใช้น้ำจากมะนาว 1 […]
เทรนด์แต่งหน้าที่ต้องอยู่เป็นตำนาน
แฟชั่นใหม่มักจะมาได้ทุกปี ทุกซีซั่น เปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีกบางทีก็ตามไม่ทันก็มี ไม่เพียงแค่เทรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าที่น่าปวดหัว วิ่งตามกันจนขาพันกันก็มี ส่งต่อไปจนถึงเทรนด์การแต่งหน้า แต่จะบอกว่าแฟชั่นโลกทุกสรรพสิ่งอะไรก็ไม่ยั่งยืนเท่าเทรนด์แต่งหน้าแบบลุคเดียวได้ทุกซีซั่น แทบจะ forever ที่จะนำเสนอต่อจากนี้ เป็นการบอกเคล็ดลับการแต่งหน้าที่ดูแล้วว่าลุคเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน และไม่ดูเอาท์แน่นอน ไม่ว่าจะคิ้วหนา ตาแมว ขนตา ปากแดง สโตบ ตาสโมคกี้แอนด์โค เรามีเทคนิคการแต่งที่เอาอยู่ทุกลุค ตามมาดูกัน 1. คิ้วหนา เทรนด์คิ้วมีการปรับเปลี่ยนไม่ค่อยบ่อยเท่าไหร่นัก แต่เรื่องรูปทรงก็มีเปลี่ยนตามกระแส แต่ถ้าเราไม่พูดถึงเรื่องรูปทรง ความคิ้วหนาก็จัดว่ายังอยู่ยืนยาวมาจนตอนนี้ ต่อให้จะมีแบบ Iconic ’90s Brow Trend เข้ามาเขย่าเทรนด์อยู่สักพักก็ยังต้องกลับมาสู่ความคิ้วหนาเหมือนเดิม เพราะคิ้วจะเป็นส่วนที่ปรับความสมดุลให้ใบหน้า ต่อให้คุณมีตาที่สวยวิ้ง รูปหน้าที่เรียวสวย หากคิ้วของคุณไม่ถูกจัดให้อยู่ในสัดส่วน หน้าของคุณก็ดูบิดเบี้ยวได้ 2. ไลน์เนอร์สีดำ จากรุ่นสู่รุ่น จากยุคครีโอพัตรามาจนปัจจุบัน ยังไม่มีเทรนด์แต่งหน้าเทรนด์ไหนไม่กรีดตา จะกรีดบางกรีดหนาก็ขึ้นอยู่กับสไตล์ของแต่ละคนแต่อย่างไรก็ต้องกรีด อาจมีเทรนการใช้ไลน์เนอร์เป็นสีสันออกมาบ้าง แต่ก็แผ่วลงเพราะส่วนมากจะให้กับกิจกรรมแฟนซี อย่างไรก็ตามไลน์เนอร์สีดำยังคงมาเป็นดันดับหนึ่งในเรื่องการขับดวงตาให้โดดเด่นแบบใครก็แซงหน้าไม่ได้ 3. ลิปสีเข้ม เดินหน้าเรียงกันมากับลิปตระกูล Dark ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาล แดง ม่วง […]
แต่งอย่างไรให้สวยกับ Nude Makup
หน้าป่วย การเรียกของหลาย ๆ คนกับการแต่งหน้าแบบโทนสีบางเบา หรือในบางโทนแทบซ่อนสี ลุค Nude ก็อาจจะไม่เหมาะกับใครหลาย ๆ คน แต่นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน การยกระดับ Nude Tone ไปอีกหลาย ๆ ขั้นเพื่อให้เข้ากับผู้หญิงทุกแบบเริ่มเข้ามาสู่ปัจจุบันจนเรียกได้ว่าไม่มีใครปฏิเสธโทนหน้า Nude ได้เลย เพราะความสวยด้วยโทรธรรมชาติของความเป็น Nude ทำให้ผู้หญิงหลายคนได้ซ่อนวัย และย้อนวัยได้ในเวลาเดียวกัน และอย่างที่บอกวิวัฒนาการของการแต่งหน้าแบบ Nude Tone ก็ได้เปลี่ยนไปมาก มีการเน้นดวงตา และการเน้นสีในบางจุดทำให้ความหน้าป่วยหายไปได้อย่างน่าอัศจรรย์ ขั้นตอนการแต่งหน้าแบบกู้ดลุคในNude Tone ขั้นตอนที่ 1 : ทำหน้าให้ชุ่มชื้น เมื่อเลือกที่จะนู้ด หน้าต้องเน้นการดูแลผิวให้ฉ่ำและเนียนก่อนเป็นอันดับแรก แน่นอนว่าผิวชุ่มชื้นก็ต้องมีมอยเจอร์ไรเซอร์ดี ๆ ที่บำรุงหน้าได้ลึก และการทามอยเจอร์ไรเซอร์นั้นวิธีที่ถูกต้องคือต้องลงมอยเจอร์ไรเซอร์และพักไว้ 5 นาที จากนั้นค่อยไปสู่ขั้นตอนต่อไป ขั้นตอนที่ 2 : ปกปิดความไม่สมบูรณ์ การแต่งหน้าแบบ Nunde Tone อาจเรียกได้ว่าเป็นการแต่งหน้าในลุคมินิมอล ความดูสบายไม่หนักหน้า การเลือกสีที่เย็นตาจนเกือบดูเป็นหน้าธรรมชาติ มันเป็นความสามารถพิเศษอย่างหนึ่งของการแต่งหน้าโทนนี้ […]
ดูแลผิวให้ Gold ด้วยกฏเหล็กไม่กี่ข้อ
ผิวสวยฉ่ำใครก็อยากมี ผู้หญิงบางคนโชคดีที่เกิดมาพร้อมกับผิวที่สวยเปล่งปลั่ง ในขณะเดียวกันที่ผู้หญิงบางคนต้องดิ้นรนเพื่อให้ได้ความผิวสวยมา แน่นอนว่าการจะมีผิวที่ดีเรื่องอาหารที่เลือกกินสำคัญมาเป็นอันดับแรก แต่บางครั้งก็ต้องมีที่จะออกนอกกรอบไปบ้าง และในการปฏิบัติตัวบางอย่างที่อาจจะไม่ได้ทำ มันก็ไม่ได้แปลว่าจะปิดโอกาสการมีผิวสวยไปทั้งหมด ต่อให้คุณไม่สามารถนอนหลับได้นานอย่างเจ้าหญิงนิทรา หรือการกินอาหารหารที่มีประโยชน์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ยังคงมีการปฏบัติหรือกฏเหล็กรูปแบบอื่นที่อาจจะง่ายขึ้นกว่าเดิม เราได้สรรหาวิธีปฏิบัติและกฏเหล็กแบบที่ไม่เข้มงวดแต่ยังได้ผลดีมาให้คุณได้ลองเลือกปฏิบัติกันดู เพื่อให้คุณได้ผิวที่ดีภายใต้ความยืดหยุ่นของกฏเดิม ๆ กฏแห่งการดูแลผิวแบบไม่ยุ่งยาก 1. การดื่มน้ำ มาอันแรกก็ง่ายแล้ว น้ำดื่มที่เราดื่มกันทุกวัน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จะให้ความชุ่มชื้นได้อย่างถาวรที่สุดไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยไหนก็ตาม และน้ำก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่คุณสามารถเติมมันให้มากขึ้นได้อย่างที่ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายแต่เป็นประโยชน์มหาศาลสำหรับผิวคุณ เพราะความชื้นจากน้ำเป็นกุญแจสำคัญสำหรับผิวสวย 2. สบู่ที่อ่อนโยนต่อผิว ในที่นี้เราหมายถึงสบู่ที่คุณจะต้องใช้อาบน้ำโดยเฉพาะสบู่หรือครีมที่ใช้ล้างผิวหน้าจะต้องมีค่า pH ที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป เพราะค่า pH มีความเป็นกรด และผิวของเราก็มีค่าเป็นกรดอ่อน ๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นการล้างหน้าจะเป็นการกำจัดความชุ่มชื้นออกไปบางส่วน ดังนั้นสบู่หรือโฟมล้างหน้าจะต้องไม่มีค่า pH ที่สูง เพื่อที่จะไม่ดึงเอาความชุ่มชื้นออกไปจนหมดทำให้ผิวแห้งกร้าน ให้คุณล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น หลังจากนั้นให้ใช้นิ้ววนบนผิวหน้าเป็นวงกลมไปเรื่อย ๆ และซับหน้าเบา ๆ เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบนผิวหน้า เมื่อผิวหน้าได้รับการกระตุ้นจะทำให้เลือดไหลเวียนดีทำให้ผิวหน้าดูมีสุขภาพดี 3. การขัดผิว การขัดผิวเป็นการสร้างผิวใหม่ตลอดเวลา แต่ขัดบ่อยเกินไปก็ไม่ใช่สิ่งที่ดี การขัดผิวช่วยลดการเกิดสิว ช่วยปรับปรุงสภาพผิวให้ดีขึ้น เปิดผิวเพื่อช่วยให้ดูดซึมความชื้นได้มากขึ้น และยังช่วยรักษาผิวที่เปล่งปลั่งเรียบเนียน ลดการปรากฏของริ้วรอยที่ไม่พึงประสงค์ […]
จัดกระเป๋าไปปารีสตามแฟชั่นสปริงซีซั่น 2022
หลังจากการถูกปิดกั้นการเดินทางกันมาอย่างยาวนานกับไวรัสระดับโลกอย่างโคโรน่าไวรัสสาระพัดสายพันธุ์ที่มนุษย์เราต้องเผชิญ มันอาจจะต้องมีความระแวงอยู่ไม่น้อยสำหรับการติดต่อที่ง่ายมากจนน่าตกใจ แต่ตอนนี้ทุกคนเริ่มอยู่กับมันได้แล้ว และหลาย ๆ ประเทศก็เริ่มต้อนรับการกลับมาเป็นปรกติ การท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้งและฝรั่งเศส ประเทศแห่งความคลาสสิค โรแมนติก และหลายคนรู้สึกว่าต้องให้เป็น Once in a lifetime แต่ที่รู้กันอยู่ว่า ฝรั่งเศสเป็นเมืองแห่งแฟชั่น และสาว ๆ ก็มักจะให้ความสำคัญกับการ dress up มาก ๆ เรามีไอเดียนำทางสำหรับสาว ๆ ที่เตรียมพร้อมการเปิดโลกครั้งใหม่ที่อยากไปเยือนฝรั่งเศสในลุคสาวผู้มาเยือน ลองมาใช้ดีไซน์เหล่านี้เป็นไอเดียให้คุณได้สร้างลุคนักท่องเที่ยวที่มีความทันสมัยกัน Spring dress + Slingback heels + Straw woven bag เป็นการผสมของเดรสปริง กับรองเท้าเปิดส้นดีไซน์ Slingback heels กระเป๋าสาน ด้วยความเดรสกระโปรงยาวซิปหน้าที่ดูเรียบ สไตล์นี้อาจดูเรียบร้อยสักหน่อยแต่ยังคงมีเสื้อคาร์ดิแกนสวมทับเมื่อคุณรู้สึกว่าอากาศอาจจะดูเย็นลงเล็กน้อย ลุคนี้เป็นลุควันเดินเล่นเมื่องประวัติศาสต์อย่าง Rennes ความดูวินเทจแบบมินิมอลรับลมเบา ๆ ก็เก๋ดูเป็นผู้มาเยือนที่ปรับตัวได้ดี white t-shirt + blazer + jeans + […]
ความลับเชิงลึกของการมีคิ้วสวย
ใบหน้าที่จะมีรูปหน้าที่สมบูรณ์แบบ คิ้วเป็นตัวช่วยได้มาก เพราะรูปคิ้วจะสามารถเป็นตัวกำหนดความสมดุลของรูปหน้าทั้งหมดเข้าด้วยกัน และคิ้วยังสามารถทำให้คุณดูอ่อนกว่าวัย และทำให้หน้าดูมีมิติมากขึ้น แต่ช่วงวัยก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะคิ้วก็จะมีการเปลี่ยนไปตามช่วงวัยด้วย คิ้วคุณอาจจะดูธรรมชาติในวัย 20-30 แต่เมื่อหลังจากนั้นแล้ว คิ้วอาจจะต้องการการได้รับการจัดการให้เข้ารูปร่างและเซ็ทได้ง่ายและถาวร เรามีวิธีแนะนำการจัดรูปคิ้วเพื่อช่วยสร้างรูปหน้าสวยแบบที่คุณคิดไม่ถึงมาก่อน ลองมาดูการเปลี่ยนแปลงของคิ้วและการจัดการกับคิ้วให้ยกระดับความเข้ารูปของใบหน้าด้วยคิ้วกัน ทำความรู้จักกับคิ้วจากเคล็ดลับเหล่านี้ 1. ทำความรู้จักกับคิ้ว มันก็คือการทำความเข้าใจในรูปแบบของคิ้วของคุณในเชิงลึกที่สุด เริ่มด้วยการยืนที่หน้ากระจกเพื่อสำรวจลักษณะของคิ้วของคุณสังเกตดูว่ามันมีรูปร่างแบบไหน หนา บาง หรือไม่ได้รูป และปัญหาตามวัยของคิ้วอีกแบบที่ตามมาคือหางคิ้วที่สั้นลง หรือยาวตกไปไม่ได้รูป และเมื่อคุณรู้แล้วว่าคิ้วของคุณอยู่ในรูปแบบไหนอย่างละเอียด คุณก็จะสามารถคิดต่อได้ว่าคุณต้องจัดการกับมันแบบไหน และแบบไหนที่คุณต้องการและเข้ากับคุณ คุณสามารถใช้เครื่องมือจากรายละเอียดและขั้นตอนการจัดการคิ้วให้สวยได้ด้วยการติดตามขั้นตอนต่อจากนี้ 2. สร้าง Mapping Mapping จะมีหลักเกณฑ์ในการสร้าง เพื่อให้คุณได้รู้ว่าคิ้วที่คุณมีอยู่ในขณะนี้ต้องจัดการมันไปในทิศทางไหนและต้องเข้ากับลักษณะโดยรวมของใบหน้าของคุณเอง ดังนั้นคุณจำเป็นต้องรู้รูปร่างใบหน้าและตำแหน่งดวงตาของคุณ เพื่อให้คุณได้รู้ว่าคิ้วของคุณควรอยู่ตรงไหน และจุดไหนที่ต้องเป็นจุดเริ่มต้นและสิ้นสุดได้ตรงไหน หลักเกณฑ์การกำหนดง่าย ๆ คิ้วของคุณจะต้องจัดการแยกออกมาเป็นสองส่วน จากจุดเริ่มโค้งและจบการโค้งไปที่ด้านปลาย ในส่วนโค้งแรก ควรทำให้ยาวกว่าส่วนที่สอง (โค้งถึงปลาย) ส่วนโค้งของคิ้วควรจะต้องเริ่มห่างแบบ2 ใน 3 ขั้นตอนการสร้าง Mapping 1. เริ่มจากการใช้ดินสอเขียนขอบตา นำมาวางในแนวตั้งโดยให้ตรงด้านรูจมูกของคุณวางดินสอเขียนลงไปจนถึงคิ้ว ควรอยู่ด้านนอกมุมด้านในของดวงตาให้ห่างจากท่อน้ำตาเล็กน้อย เป็นการกำหนดจุดแรกของการเริ่มต้นการเขียนคิ้ว 2. ใช้ดินสอแท่งเดิมทำมุมจากถัดไป […]
ข้อผิดพลาดทำให้หมดสวยจากการเข้าใจผิดเรื่องการดูตัวเอง
การดูแลตัวเองบางครั้งคุณคิดว่ามันดีพอแล้ว แต่อันที่จริงมันอาจจะยังไม่ดีพอเลยด้วยซ้ำ ด้วยปัจจัยหลายอย่างที่มีรายละเอียดที่มากกว่าที่เป็นอยู่ หากคุณกำลังรักษาสุขภาพตัวเองในทุก ๆ ด้าน คิดว่าคุณจัดการได้ดี อย่างเช่น การนอนหลับครบแปดชั่วโมง การดื่มน้ำที่เพียงพอต่อวัน และการเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม แต่ทำไมผิวถึงยังดีไม่พอ นั่นเป็นเพราะว่า การดูแลกิจวัตรในเรื่องการดูแลตัวเองอย่างจริงจังมันยังไม่ดีพอ และมันอาจถึงเวลาแล้วที่ต้องมาดูกันว่ากิจวัตรประจำวันที่ทำอยู่ต้องปรับเปลี่ยนอย่างไรได้บ้าง เพราะหากคุณไม่เปลี่ยนการตื่นขึ้นในตอนเช้าในอนาคตข้างหน้า อาจต้องพบกับการเกิดสิวหรือผมแห้งที่ดูขาดน้ำจะทำลายวันดี ๆ ของคุณ มาดูกันว่ามีสิ่งใดที่คุณมองข้ามไปก่อนหน้านี้ และต้องรีบกลับไปแก้ไขในทันทีเพื่อกลับมาสวยอีกครั้ง ข้อผิดพลาดที่ต้องรีบแก้ไข 1. ปลอกหมอนสกปรก การนอนอย่างเต็มที่ 8 ชั่วโมง เชื่อหรือไม่ปลอกหมอนที่คุณใช้ในการนอนอยู่ทุกวันยังคงสกปรกตกค้างหากคุณทำความสะอาดไม่เพียงพอ ความสกปรกจะมีส่วนทำให้เกิดสิวบนผิวของคุณ เนื่องจากปลอกหมอนสกปรกจะรวมเอาเชื้อโรคที่มาจาก เหงื่อ เส้นผมที่สกปรก น้ำมันสะสมเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ทำให้เกิดสิว แต่ยังเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียและจะนำไปสู่ปัญหาผิวอื่น ๆ ให้คุณใส่ใจด้วยการเปลี่ยนปลอกหมอนเป็นประจำ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง และให้ลองเปลี่ยนมาเป็นปลอกหมอนที่ทำมาจากผ้าซาตินหรือผ้าไหมแทน เพราะเนื้อผ้าพวกนี้จะไม่กักเก็บน้ำหรือจะไม่ไม่ดูดซับน้ำมันตามธรรมชาติของผิวที่จะทำให้ผิวแห้ง 2. ใช้ Dry Shampoo กับผมสกปรก Dry Shampoo มีคุณสมบัติในการดูดซับสารคัดหลั่งจากหนังศีรษะได้ดีมาก สาว ๆ คนไหนที่เลือกใช้ Dry Shampoo กับผมที่ไม่ได้สระด้วยความขี้เกียจ นั่นเป็นวิธีที่คุณกำลังทำร้ายหนังศีรษะของคุณ […]
