วิธีการรับมือกับผู้ชายนักบงการอย่างผู้หญิงฉลาด
ความสัมพันธ์ของชาย หญิง ตามระบบทางธรรมชาติผู้ชายมักจะเป็นผู้นำก่อนเสมอถึงแม้ว่าบางคู่รักผู้หญิงจะเป็นผู้ตัดสินใจ แต่ผู้ชายก็ยังมีผลในการตัดสินใจอยู่ดี แต่สำหรับคู่รักที่มีผู้ชายเป็นผู้นำที่จะดูชนะเลิศไปซะทุกแมตซ์ นี่คือความสัมพันธ์ที่มีการควบคุมที่น่ากังวล แต่มันก็ไม่มีเรื่องไหนสำหรับผู้หญิงที่ต้องกังวลไปตลอดกาล อย่างเช่นการถูกควบคุม มันมีวิธีหลักเลี่ยงและย้อนกลับไปให้กับคู่รักของคุณได้หันมาเป็นฝ่ายที่ตามคุณบ้าง วิธีเหล่านี้อยู่ในเนื้อหาต่อไปนี้ คุณลองเข้ามาอ่านและทำความใจกับสิ่งเหล่านี้ดู ลองนำไปปฏิบัติ เพื่อทำให้การใช้ชีวิตของคุณไม่เหนื่อยจนเกินไป ทำไมเราถึงถูกควบคุม? ก่อนอื่นมาลองตอบคำถามกันดูก่อนว่า “ทำไมเราถึงยอมถูกให้เขาควบคุม?” เพราะคำที่คุ้นเคย “ความรักทำให้คนตาบอด” ความจริงที่ไม่มีข้อโต้แย้งเลยจริง ๆ โดยเฉพาะผู้หญิงด้วยแล้วบูชาความรักชนิดที่ใส่หมดก๊อก ต่อให้ความรุนแรงของความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นจะมาแค่ไหน ผู้หญิงมักจะมีข้ออ้างให้ทุกเรื่องเข้าใจได้ แต่ลืมไปหรือเปล่าว่าความเจ็บปวดมันอยู่ที่เราไม่ได้อยู่ที่ใคร ลองเปลี่ยนตัวเองกับสถานการณ์ตึงเครียดในความสัมพันธ์นี้กัน มาดูกันว่าสิ่งที่คุณต้องเจอมันจะมีวิธีแก้หรือดึงคุณออกมาจากสถานการณ์แบบฉลาด และดูเนียนที่สุดทำได้อย่างไรบ้าง 1. เมื่อคุณเป็นเหยื่อ นักบงการตัวยงในบ้าน หรือในชีวิตคุณหากเขาคนนั้นคือคนรักชายหนุ่มผู้ที่คุณรักเขามากมายกว่าตัวเอง บ่อยครั้งที่เขาแสดงความเป็นที่หนึ่งและเป็นนักข่มเหงตัวป่วน เพราะเขามีความกังวลกับชีวิตของเขามากกว่าอะไรในโลกใบนี้ และแน่นอนผู้ชายลักษณะนี้บอกเลยว่ามีข้อเดียวที่มีอยู่ในตัวและเปลี่ยนยาก นั่นคือความไม่เคยรู้สึกผิด ต่อให้ความผิดพลาดนั้นเกิดจากเขาเชื่อได้เลย เขาจะรู้สึกเสมอว่ามันไม่ใช่ความผิดของเขา เป็นความผิดของคุณเพราะคุณบอบบางมากเกินไป เขาจะกลายเป็นนักพูดแต่เรื่องที่พูดมันคือชีวิตที่น่ากังวลของเขา แต่เขาไม่เคยฟังชีวิตของคุณบ้างเลย จนทำให้ความรักที่คุณให้เขาทั้งหมดเริ่มประมวลผลหาทางทำให้ชีวิตของเขาถูกแก้ไขเพราะคุณไม่อยากเห็นหน้าของเขายุ่งเหยิง บทสรุปของการพยายามแก้ไข นั่นคือเขาอยู่เหนือคุณทุกกรณี และคุณกลายเป็นเหยื่อของเขาไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงินหรือเรื่องอารมณ์ วิธีเปลี่ยน ให้คุณเปลี่ยนความคิดของตัวเองใหม่ และให้คิดเสมอว่าการตัดสินใจของคนอื่นมันไม่ใช่ความชอบและไม่ใช่ความผิดหากผลของมันจะออกมาเป็นแบบไหน เพราะปัญหาของแต่ละคนหาเกิดปัญหาของเขาเอง ปัญหานั้นต้องถูกแก้โดยเขา แต่หากปัญหานั้นเป็นผลกระทบของชีวิตคู่ของของคุณก็ต้องถูกแก้จากคุณและเขา แต่นั่นไม่ได้แปลว่าต้องมีคนใดคนหนึ่งรับผิดชอบกับผลนั้น หากต้องรับผิดชอบต้องทั้งสองคนรวมกัน มันอาจจะต้องเป็นวิธีที่ต้องออกแรงกันมาสักหน่อย แต่คุณต้องกล้าที่จะพูดให้เขาเข้าใจว่า สิ่งที่เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเขาไม่ใช่คุณที่ต้องรับผิดชอบ […]