ผู้หญิงหลาย ๆ คนอาจไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังต้องเจอกับปัญหาผิวแพ้ง่ายอย่างไร เพราะอาการมันจะไม่ปรากฏชัดหากไม่ใช่จุดที่อ่อนที่สุดของคุณ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร
การทดลองผลิตภัณฑ์ไปเรื่อย ๆ ไม่น่าจะส่งผลดีนักต่อผิวของคุณ หากผิวของคุณมีความ sensitive จะทำให้อาการแพ้ง่ายปะทุขึ้นอย่างรวดเร็ว มาดูคำแนะนำดี ๆ จากบทความนี้กันว่า สิ่งที่คุณกำลังเลือกที่จะใช้ หรือคุณนึกไม่ออกว่าจะต้องใช้อะไร ในนี้มีคำตอบให้คุณ
1. เลี่ยงทุกอย่างที่มีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหย
ผู้หญิงหลายคนคิดว่าน้ำมันหอมระเหยจะช่วยให้ผิวของพวกเธอชุ่มชื้นและได้รับคุณค่าทางวิตามินสู่ผิวและสามารถรักษาอาการแพ้เพราะเป็นพืชธรรมชาติ คุณต้องหยุดความคิดนี้เดี๋ยวนี้
จริงอยู่น้ำมันหอมระเหยส่วนมากจะถูกสกัดมาจากพืชธรรมชาติ เช่น ที่นิยมกันมากคือสารสกัดจาก Chamomile คุณประโยชน์มีมากก็จริง แต่ผู้หญิงผิวแพ้ง่ายควรหลีกเลี่ยงโดยด่วน เพราะผิวแพ้ง่ายต้องไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสะกัดที่เป็นกลิ่นหอม
วิธีสังเกตฉลากข้างผลิตภัณฑ์ ถ้าในลิสต์ของส่วนผสมมีคำว่า “Perfum” และ “Essential Oils” ให้คุณวางมันลง เพราะเหล่านี้คือส่วนผสมของน้ำหอมและน้ำมันที่จะทำให้ผิวแพ้ง่ายอักเสบเร็วขึ้น
2. เน้นสกินแคร์ที่มีส่วนผสมไม่มาก
บางครั้งข้างผลิตภัณฑ์ระบุส่วนผสมไว้ให้ได้มากที่สุด แต่เอาเข้าจริงการทำงานที่ดีอาจจะมีแค่ 2 ใน 5 เท่านั้น บ่อยครั้งที่ระบุส่วนผสมที่เกินความเป็นจริง
แต่สำหรับผู้มีผิวแพ้ง่ายต่อให้คุณเห็นส่วนผสมกว่า 40 ชนิด ให้คุณลองดูการระบุหากในนั้นมีส่วนผสมที่เป็น rosehip, borage, apricot คุณสามารถหยิบมาใช้ได้เลย เพราะส่วนผสมเหล่านี้ปลอดภัยปราศจากกลิ่นหอมของน้ำหอม และเป็นกลิ่นจากธรรมชาติรับรองได้ว่าจะไม่สร้างความระคายเคืองให้ผิวของคุณ
3. อ่านข้อความระบุให้เข้าใจ
ผิวแพ้ง่ายบอกเลยว่าให้อยู่ให้ห่างผลิตภัณฑ์ที่มีตัวกระตุ้นให้เกิดการอักเสบง่ายจากส่วนผสมของ วิตามี C และกรดที่สำหรับจัดการสิว และอาจจะมีข้อสงสัยอีกว่าระหว่างผิวที่บางกับผิวแพ้ง่ายมันคือตัวเดียวกันหรือไม่ ตอบเลยว่า “ไม่ใช่” ผิวบางสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินและกรดบางชนิดที่สามารถสร้างความแข็งแรง แต่สำหรับผิวแพ้ง่ายนั้น เป็นผิวที่ต้องหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่จะทำให้ผิวแข็งแรงบางชนิด
4. เลือกสกินแคร์ที่มีส่วนผสมที่ดูแลผิวแพ้ง่าย
ง่าย ๆ เลยเมื่อคุณอ่านที่ส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ เมื่อไหร่ที่คุณเจอส่วนผสม Allantoin , Bisabolol, Collodial Oatmeal and Panthenol คุณสามารถใช้ผลิตภัณฑ์นี้ได้อย่างไม่ต้องกังวล
ส่วนผสมเหล่านี้มีคุณสมบัติช่วยเรื่องให้ความชุ่มชื้น และต่อต้านการระคายเคืองและการอักเสบและอาการแพ้ที่เกิดขึ้นจากฮีสตามีนตามธรรมชาติ
5. ดูแลเรื่องอาหารที่จะก่อให้เกิดการอักเสบ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าอาการผิวแพ้ง่ายก็มาจากอาหารได้เหมือนกัน ปฏิกิริยาของคนแพ้ง่ายจะเห็นได้ชัดต่อให้อาหารที่คุณกินเข้าไปเป็นอาหารที่ร่างการต้องการใช้ประโยชน์ แต่มันก็จะกลายเป็นโทษต่อผิวคนแพ้ง่ายได้
ให้คุณลองงดอาหาร เช่น ผลิตภัณฑ์จากนม อย่าง นมสด ชีส หรือโยเกิร์ต เป็นเวลา 1 สัปดาห์ และให้เริ่มสังเกตดูว่าผิวของคุณจะดีขึ้นหรือไม่ และให้คุณเพิ่มตัวช่วยต้านการอักเสบอย่างข้าวโอ๊ต ผลลัพธ์ของมันจะดีมากสำหรับผิวของคุณ
6. หลีกเลี่ยงโฟม
โดยเฉพาะโฟมล้างหน้า เพราะโฟมส่วนใหญ่มีส่วนผสมของโซเดียม ลอริล ซัลเฟต หรือ SLS เป็นตัวการกินน้ำมันธรรมชาติที่มีไว้เพื่อหล่อเลี้ยงผิว สังเกตดูว่าส่วนใหญ่จะให้ใช้ในคนที่มีผิวมันมากเท่านั้น
ให้ใช้ครีม บาล์ม หรือน้ำยาทำความสะอาดที่มีส่วนผสมของน้ำมันจะดีต่อผิวของคุณมากกว่าการใช้เนื้อครีมที่เป็นโฟม เพราะบาล์มหรือน้ำมันจะช่วยคงความชุ่มชื้นตามธรรมชาติได้ดีกว่ามากและไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองสำหรับผิวแพ้ง่าย
7. หลีกเลี่ยงความเป็นกรด
เคยรู้สึกแสบตามาก ๆ จากน้ำในเปลือกส้มกระเด็นเข้าตาใช่ไหม ความเป็นกรดจากรสชาติของส้มมีถึง 3.5 ในค่าความเป็นน้ำอยู่ที่ 7
สำหรับค่า pH ในผิวเรามีค่าความเป็นกรดถึง 5.5 แต่เป็นปริมาณที่ผิวต้องมีให้ถึงเพื่อใช้เป็นเกราะป้องกันการอักเสบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับผิวของคุณ
ดังนั้นเมื่อไหร่ที่ผลิตภัณฑ์ของคุณมีระดับค่า pH ที่ต่ำมากจนเกินไปนั่นหมายความว่าผลิตภัณฑ์นั้นไม่มีคุณสมบัติมาเพียงพอที่จะปกป้องผิวของคุณไม่ให้ระคายเคืองได้
ข้อมูลทั้งหมดเหล่านี้ อาจจะช่วยให้คุณสามารถดูแลผิวที่แพ้ง่ายของคุณได้อย่างฉลาดขึ้น อะไรก็แล้วแต่การเลือกใช้สกินแคร์คุณต้องรู้จักผิวของคุณดีว่าที่แท้จริงแล้วมันอยู่ในระดับของผิวบอกบางหรือผิวแพ้ง่าย เพราะบ่อยครั้งที่ผู้หญิงเราจะแยกไม่ออกระหว่างสองสิ่งนี้ จนอาจทำให้การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์กลายเป็นการทำลายผิวของตัวเอง
คุณสามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการระบุอาการแพ้ของคุณให้ชัดเจน เพื่อคุณจะได้ทำความเข้าใจและเลือกใช้สกินแคร์ที่เหมาะที่สุดกับผิวแพ้ง่ายของคุณอย่างให้เห็นผลดีที่สุดจริง ๆ เว็บตรงฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ
